ลูกชายอัพเดทอาการคุณแม่ฟื้นตัวหลังผ่าตัดขาขาดจากทางเลื่อนสนามบิน เข้มแข็ง พร้อมสู้กลับมาเดินได้อีกครั้ง ขอบคุณทุกกำลังใจ
เมื่อวันที่ 2 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤตย์ กิตติรัตนา บุตรชายของหญิงที่ประสบอุบัติเหตุบนทางเลื่อนที่สนามบินดอนเมืองจนทำให้ขาขาด ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ Kit Kit ระบุว่า สวัสดีตอนเช้าวันที่ 2 หลังวันเกิดเหตุครับ ทางครอบครัวกิตติรัตนา ต้องขอขอบคุณทุก ๆ กำลังใจที่ส่งเข้ามาอีกครั้งนะครับ อยากให้ทุก ๆ ท่านทราบจริง ๆ ว่า การได้รับกำลังใจจากคนนับหมื่นในขณะที่พวกเรากำลังเผชิญวิกฤตมันทำให้พวกเราจิตใจเข้มแข็ง และมีกำลังใจที่จะต่อสู้ปัญหาจริง ๆ ครับ เนื่องจากเรื่องราวที่เกิดกับครอบครัวของเราได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก วันนี้ผมขอเป็นตัวแทนของครอบครัวเป็นผู้เขียนจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 2 เพื่ออัพเดทเรื่องราวและสถานการณ์ทางฝั่งเรา
ส่วนที่ 1 อัพเดทอาการของคุณแม่ในเบื้องต้น
1. คุณแม่ฟื้นตัวจากการผ่าในครั้งแรกได้ผลเป็นที่น่าพอใจในเบื้องต้น ทานข้าวได้เอง เริ่มพูดคุยได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามทางทีมแพทย์ยังลงความเห็นให้อยู่ในสถานะเฝ้าระวังการติดเชื้อ ยังคงต้องอยู่ต่อในห้อง ICU อีกสักพัก และใคร่ขอความอนุเคราะห์งดเยี่ยมเพื่อให้คุณแม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ซึ่งจะมีผลต่อการฟื้นตัวของบาดแผลและการรักษาฟื้นฟูในระยะยาว
2. สภาพจิตใจของคุณแม่เข้มแข็งมาก ๆ ครับ วันนี้เป็นวันที่ 2 หลังวันเกิดเหตุ คุณแม่บอกว่าคุณแม่จะสู้ คุณแม่จะต้องกลับมาเดินได้อีกครั้งครับ คุณแม่ได้ปรึกษากับทั้งทีมแพทย์และครอบครัวในกระบวนการรักษาฟื้นฟูระยะยาวรวมถึงการใส่ขาเทียม
ผมได้ติดต่อเพื่อน ๆ ที่ทำงานในบริษัทนวัตกรรมขาเทียมชั้นนำทั้งในในต่างประเทศ ทุก ๆ คนบอกว่ามีความเป็นไปได้มาก ๆ ที่คุณแม่จะกลับมาเดินและใช้ชีวิตได้จนเกือบเหมือนปกติครับ โดยทั้งคุณแม่และครอบครัวของเราจะสู้อย่างเต็มที่ทั้งในเรื่อง สภาพร่างกาย สภาพจิตใจ และ กำลังทรัพย์ (พวกเราดีใจมากจริง ๆ ที่ยังมีความเป็นไปได้ในเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นครั้งนี้) อย่างไรก็ตามครอบครัวเลือกให้มีจิตแพทย์เข้าร่วมในขั้นตอนการเยียวยารักษา เพื่อให้คุณแม่ฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจครับ
3. คุณแม่ขอฝากผมมาขอโทษพี่ ๆ สื่อมวลชน และ สังคมที่ยังไม่สามารถออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ วันเกิดเหตุได้ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ คุณแม่ยังไม่ได้มีสติสัมปัชชัญญะเต็มร้อย เพราะความตกใจ ความเศร้า และอาการของฤทธิ์ยาแก้ปวด คุณแม่ขอเวลาทุก ๆ ท่านที่เกี่ยวข้องพักฟื้นอีกสักหน่อย และขอทบทวน เรียบเรียง เรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งปรึกษาทนายความของครอบครัว เพื่อให้ข้อเท็จจริงที่จะได้มีเผยแพร่ออกไปให้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา และเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด
4. คุณแม่ขอฝากขอบคุณทุก ๆ กำลังใจที่ได้รับจากทุก ๆ ท่านอีกครั้ง ต้องยอมรับว่าคุณแม่ไม่เคยคิดว่าจะมีกำลังใจหลั่งไหลกันเข้ามา ทั้งจาก ญาติมิตร คนสนิท คนรู้จัก และคนที่ไม่รู้จัก ทุก ๆกำลังใจช่วยเยียวยาจิตใจของคุณแม่มาก ๆ จริง ๆ ครับ
5. คุณแม่ขอให้ผมให้ข้อมูลที่เผยแพร่โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้พูดถึงถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ท่านได้ตั้งคำถามในหลายประเด็นจากข้อสมมติฐานจากแถลงการณ์ ซึ่งทำให้คุณแม่ยังคงร้องไห้และมีอาการซึมเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวจึงยืนยันที่จะจำกัดการเข้าถึงข่าวสารของคุณแม่ และให้ผมผู้เป็นลูกชายคนโตเป็นตัวแทนในการสื่อสารและเปิดเผยข้อมูลจนกว่าคุณแม่จะพร้อมครับ
ส่วนที่ 2 สานส์จากครอบครัวถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่าน
1. ก่อนอื่นทางครอบครัวต้องขอขอบคุณน้ำใจและกำลังใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่เข้ามาเยี่ยมแสดงความจริงใจและให้กำลังใจ รวมไปถึงทางทีมผู้บริหารทางท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานไทย ผู้ติดตาม และหน่วยงานต่าง ๆ พวกเรามีความซาบซึ้งน้ำใจของทุกท่าน นอกจากกำลังใจ เรายังได้รับคำสัญญาที่จะช่วยเหลือดูแลการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่จนกว่าคุณแม่จะหายดี หรือกลับมาเดินได้ดังเดิม ครอบครัวได้มีการพูดคุยกับทาง ผอ.ของทั้งสองหน่วยงาน ทั้งสองท่านได้ชี้แจงเจตนารมย์ที่จะรับผิดและช่วยเหลือเยียวยา จึงขอให้ครอบครัวสบายใจในกระบวนการ อีกทั้งชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดพลาดที่เกิดภายในเขตอาคารของการท่าฯ ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของพวกท่าน รวมไปถึงคำชี้แจงอย่างไม่เป็นทางการสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
2. คำชี้แจงจากทางครอบครัว สิ่งที่เราจะโฟกัสรองจากการรักษาของคุณแม่คือ ข้อเท็จจริง สำหรับเรื่องราวที่เกิด ทางครอบครัวได้ชี้แจงประเด็นที่เคลือบแคลงใจไปยังการท่าฯ ในประเด็นต่าง ๆดังต่อไปนี้
2.1 คุณแม่เล่าว่าในตอนเกิดเหตุ ท่านได้เดินอย่างปกติจนกระทั่งใกล้ถึงจุดสิ้นสุดทางเลื่อน (ประมาณ 2-3 แผ่นเหล็กแพลทฟอร์ม) ทางเลื่อนแผ่นหนึ่งก็ยุบตัวลงและดูดขาของคุณแม่ลงไป
2.2 คุณแม่เห็นว่าช่วงเวลาตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงการเข้าช่วยเหลือกู้ภัย ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ถ้าหากเร็วกกว่านี้อาจจะสามารถช่วยลดการสูญเสีย หรือ ท่านอาจจะไม่ต้องเสียขาไป ทุก ๆ วินาทีที่ขาท่านติดอยู่ในเครื่องมันคือทุกวินาทีที่ทรมานที่สุดในชีวิตของท่านครับ ผอ.ทั้งสองท่านก็รับปากและจะรีบตรวจสอบให้เร็วที่สุด
3. นอกจากนี้ทางครอบครัวได้ยื่นหนังสือโดยตรงในระหว่างการพูดคุยเพื่อที่จะขอ
3.1 หลักฐานทั้งหมดที่สามารถชี้แจงเรื่องราวที่เกิดอย่างตรงไปตรงมา
3.2 การอนุญาตให้ครอบครัวแต่งตั้งตัวแทน เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทีมคณะทำงานตรวจสอบ เพื่อให้ผลการตรวจสอบเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและไร้ขอสงสัย ซึ่งทางท่านผอ.ทั้งสองท่านก็ตอบรับ และจะนำไปพิจารณาและจะช่วยประสานงานอย่างเร็วที่สุด
4. พวกเราต้องขอขอบพระคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่นำเสนอข่าวจนเป็นที่สนใจของสังคมในเวลานี้ ซึ่งทำให้เราได้รับพลังที่แข็งแรงจากทุกคนในสังคมและสื่อโซเชียล ที่จะช่วยวิเคราะห์และตั้งข้อสังเกตุในเหตุการณ์ที่เกิด แต่ในขณะเดียวกันพวกเราต้องขออภัยที่ยังไม่สามารถตอบทุกคำถามที่ได้รับ โดยเฉพาะเรื่องการเจรจาค่าเยียวยา ทางครอบครัวต้องขอเรียนด้วยความเคารพว่ายังไม่พร้อมเจรจา มันเป็นเรื่องที่ยากและโหดร้ายสำหรับเราที่จะต้องตีราคา “ขาของคุณแม่” ของพวกเราในเวลาแบบนี้ อีกทั้งบางคำถามอาจจะมีผลต่อรูปคดีตามคำแนะนำของทนายความของครอบครัว พวกเราขอทำใจให้แข็งแรงอีกสักหน่อย แล้วพวกเราจะกลับมาสู้ในเรื่องนี้อย่างมีสติครับ
5. นอกจากนี้ครอบครัวขอความอนุเคราะห์ จากทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำเสนอหรือแชร์ข่าว ให้ส่งต่ออย่างระมัดระวังทั้งในส่วนของรูปภาพและข้อความ เนื่องจากการส่งต่อจะถูกบันทึกอยู่ในดิจิตอลฟุตปรินท์ทั้งหมด ผมมีความกังวลหากในอนาคตอีก 6 เดือน 1ปี หรือ 10ปี เมื่อคุณแม่ย้อนกลับมาดูและเห็นภาพหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม มันคงทำร้ายจิตใจของคุณแม่มากจริง ๆ ครับ
6. ทางครอบครัวขอชี้แจงอีกครั้งว่าไม่ได้มีเจตนาให้เกิดการลงโทษบุคคลใด แต่เพื่อพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุก ๆ คน และขอวิงวอนให้เหตุการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้าย คุณแม่ของผมเสียขาไปแล้วครับ ผมและครอบครัวไม่ต้องการให้ใครสูญเสียอาชีพการงาน ทรัพย์สิน และ ร่างกายอีก
ท้ายนี้ผมขอเรียนแจ้งว่าผมจะต้องเดินทางไปทำภารกิจที่ต่างประเทศเป็นระยะเวลาหนึ่ง จึงอาจจะไม่สามารถคอยอัพเดทอาการให้ทุกท่านทราบได้ตลอดเวลา ซึ่งทางคุณพ่อและครอบครัวจะเป็นผู้ดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิด หากท่านใดมีคำถามหรือต้องการข้อมูลสอบถามใดในกรณีเร่งด่วน ขอให้รบกวนติดต่อทาง Line ผมเท่านั้นครับ ทางครอบครัวหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในการเขียนจดหมายเปิดผนึกฉบับหน้า จะเป็นการอัพเดทว่าคุณแม่พ้นขีดอันตรายแล้วครั
ก่อนหน้านี้ นายกฤตย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า สวัสดีครับทุกท่าน ผมเชื่อว่าหลายๆท่านคงได้ข่าวกรณีผู้โดยสารหญิงประสบอุบัติเหตุบนทางเลื่อนที่สนามบินดอนเมืองจนทำให้ขาขาด ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ ผู้โดยสารหญิงท่านนี้คือคุณแม่ของผมเองครับ ก่อนอื่นทางครอบครัวต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจกันอย่างล้นหลามครับ กำลังใจคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับครอบครัวในตอนนี้จริงๆ คือเมื่อวานคือวันที่เกิดเรื่อง ทางครอบครัวอยู่ในความตกใจและเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เราก็ต้องรีบตั้งสติและบริหารจัดการวิกฤตนี้ที่เกิดกับขอบครัวเราให้เร็วและดีที่สุด หลังเกิดอุบัติเหตุ พวกเรายังไม่ได้พูดคุยกับถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ แต่โฟกัสไปที่การรักษาเพื่อกู้ภาวะวิกฤตของคุณแม่เป็นความสำคัญอันดับแรกเนื่องจากคุณแม่เสียเลือดมาก จึงยังไม่ได้มีโอกาสในการได้ออกมาให้สัมภาษณ์หรีอตอบคำถามสื่อที่ติดต่อเข้ามาทางครอบครัวอย่างเป็นทางการณ์ ตอนนี้เราเริ่มตั้งสติกันได้บ้างแล้ว เลยอยากมาให้ข้อมูลเบื้องต้น เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุก ๆ คน ผ่านจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ครั
ตอบยอมรับครับว่าเหตุการณ์ที่บีบหัวใจครั้งนี้มันยากกับครอบครัวเราจริงๆ ยังคงตกใจและเสียใจทุกครั้งที่เห็นข่าวหรือตอนคิดถึงอาการของคุณแม่ แต่พวกเรายังต้องสู้ครั้บเพราะคุณแม่ก็กำลังสู้อยู่เหมือนกัน เมื่อวานเหตุเกิดในช่วงเช้าและคุณแม่ได้รับการผ่าตัดในช่วงเย็นที่โรงพยาบาลบำรุงราษฏ์ โรงพยาบาลที่ครอบครัวและคุณแม่มีประวัติรักษาอยู่ ทางครอบครัวต้องขอขอบพระคุณทีมงานแพทย์ทุกๆท่าน ตั้งแต่ที่สนามบินดอนเมือง โรงพยาบาลภูมิพล และ โรงพยาบาลลบำรุงราษฏ์ ที่ช่วยชีวิตคุณแม่ผมเอาไว
คุณแม่ออกจากห้องผ่าตัดเมื่อวานในช่วงค่ำ ผลผ่าตัดเป็นที่น่าพึงพอใจในขั้นต้น แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าจะเป็นการผ่าตัดครั้งสุดท้ายของคุณแม่ ทางทีมแพทย์แจ้งว่าเรายังคงต้องรอดูอาการ และภาวนาให้ไม่มีอาการติดเชื้อ หรือเนื้อตาย ซึ่งจะต้องทำให้เราต้องผ่าเปิดแผลคุณแม่และตัดเนื้อของคุณแม่ออกมาอีก กว่าจะทราบผลคงต้องรอเวลาอีกหลายวันสภาพกำลังใจของคุณแม่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วง เราได้มีโอกาสได้พูดคุยกับท่านนิดหน่อยทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด เนื่องจากท่านยังต้องพักในห้องปลอดเชื้อ คุณแม่ยังแสดงความเข้มแข็งออกมาจากทั้งทางสีหน้าและน้ำเสียง แต่เราก็ทราบดีในใจลึกๆ ของท่านแตกสลาย เพราะอยู่ๆ ก็ต้องเสียขาไป
ทางครอบครัวได้มีการขอภาพกล้องวงจรปิดจากทางสนามบินแต่ยังไม่ได้รับ คาดว่ากำลังผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน สิ่งที่ต้องยอมรับว่าครอบครัวกังวลมากที่สุดจริงๆในเวลานี้คือสภาพจิตใจของคุณแม่ และการชีวิตของคุณแม่ในระยะยาว เพราะครอบครัวทราบดีว่าเราไม่สามารถทำให้ขาของคุณแม่กลับมาเหมือนเดิม หรือแม้กระทั่งจะทำให้ชีวิตของคุณแม่กลับมาเหมือนเดิมได้ ทางครอบครัวได้มีขอให้คุณหมอช่วยพิจารณาจัดทีมนักจิตวิทยาเพื่อเข้าช่วยเหลือเยียวยาคุณแม่ในเบื้องต้น เป็นสิ่งเราต้องพยายามให้ดีที่สุดให้กับท่าน
คุณแม่ร้องไห้ ไม่ใช่เพราะอาการเจ็บแผล แต่เพราะยังจินตนาการถึงชีวิตที่มีขาข้างเดียวไม่ได้ ทางครอบครัวจึงหลีกเลี่ยงการพูดถึงเหตุการณืที่เกิดขึ้นที่สนามบินดอนเมืองกับคุณแม่มากที่สุด และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของทางสนามบิน จัดการในเรื่องสืบค้นสาเหตุต่อไป ซึ่งทางครอบครัวหวังว่าจะเป็นไปด้วยความโปร่งใสและเที่ยงธรรม ผมเองในฐานคนเป็นลูก โดยเฉพาะตอนที่พบคุณแม่ครั้งแรกหลังเกิดเหตุการณ์ ภาพที่เห็นคือเจ้าหน้าที่ถือกล่องโฟมที่ใส่ขาคุณแม่ลงมาจากรถฉุกเฉิน แยกออกมาจากตัวคุณแม่ที่นอนอยู่บนเปลรถเข็น มันเป็นความรู้สึกที่ผมไม่สามารถอธิบายได้จริงๆครับ ครอบครัวยังคงภาวนาให้แผลผ่าตัดของคุณแม่ ไม่มีอาการติดเชื้อ และเป็นการผ่าตัดครั้งสุดท้ายของคุณแม่ นอกเหนือจากนี้ครอบครัวยังไม่ขอคิดสิ่งอื่นใด เพราะถึงครอบครัวของเราจะไม่ได้เหมือนเดิมหลังจากเหตุการณ์นี้แต่เราจะต้องสมาชิกครอบครัว"ครบ"เท่าเดิมครับ ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง ทั้งการช่วยเหลือ กำลังใจ คำอวยพร