โคเปนเฮเกน, 29 มิ.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (27 มิ.ย.) สำนักงานประจำภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่ายุโรปกำลังเผชิญวิกฤตด้านสุขภาพจำนวนมากช่วงฤดูร้อนนี้ โดยเฉพาะจากอาการลองโควิด (long COVID) หลังป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อุณหภูมิที่เพิ่มสูง และการอุบัติซ้ำของการติดเชื้อโรคเอ็มพอกซ์ (MPOX) หรือที่ก่อนหน้านี้เรียกว่าโรคฝีดาษลิง (Monkeypox)
องค์การฯ ระบุว่าผลกระทบยืดเยื้อของอาการลองโควิดต่อประชากรยุโรปค่อนข้างเป็นที่น่าวิตก โดยฮันส์ เฮนรี พี. คลูเกอ ผู้อำนวยการสำนักงานประจำภูมิภาคยุโรปขององค์การฯ กล่าวว่าประชาชนทั่วภูมิภาคนี้อาจเคยมีอาการลองโควิดช่วง 3 ปีแรกของโรคระบาดใหญ่ถึงเกือบ 36 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นราว 1 ใน 30 คน และยังมีการรายงานผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 เพิ่มเกือบ 1,000 รายต่อสัปดาห์
คลูเกอกล่าวว่าหากเราไม่พัฒนาการวินิจฉัยและการรักษาอาการลองโควิดที่รอบด้าน เราจะไม่มีทางฟื้นตัวจากโรคระบาดใหญ่ได้อย่างแท้จริง การฉีดวัคซีนยังคงเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับโรคนี้ และวิธีการป้องกันอาการลองโควิดที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงไม่ป่วยโรคโควิด-19 ตั้งแต่แรก
กลุ่มประชากรเปราะบางควรได้รับการฉีดวัคซีนเป็นลำดับแรก อาทิ ผู้สูงวัย ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
นอกจากวิกฤตโรคโควิด-19 อันยืดเยื้อ ยุโรปยังต้องต่อสู้กับปัญหาอากาศร้อนจัด โดยรายงานจากสหภาพยุโรป (EU) และองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) เมื่อไม่นานนี้ ชี้ว่ายุโรปกำลังร้อนขึ้นเป็นสองเท่าของอัตราเฉลี่ยทั่วโลก และหากนับเฉพาะเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของปีก่อน อากาศร้อนจัดได้คร่าชีวิตผู้คน 20,000 ราย ขณะอุณหภูมิในสเปนและโปรตุเกสปีนี้สูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียสแล้ว
นอกจากนั้น คลูเกอระบุว่ายุโรปยังรายงานพบการอุบัติซ้ำของการติดเชื้อโรคเอ็มพอกซ์ในหลายประเทศ อาทิ สหราชอาณาจักร สเปน เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งการฉีดวัคซีนและมาตรการป้องกันล่วงหน้าจำเป็นอย่างมากในการบรรเทาสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมเน้นย้ำให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนต้านโรคเอ็กพอกซ์ หากมีวัคซีนและพวกเขามีคุณสมบัติที่จะเข้ารับ และลดการติดต่อกับผู้อื่นหากมีอาการป่วย โดยจำเป็นต้องมีแนวทางที่ครอบคลุมและร่วมมือกันเพื่อจัดการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพเหล่านี้
“ภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพทั้ง 3 อย่างนี้ ได้แก่ โรคโควิด-19 โรคเอ็มพอกซ์ และสภาพอากาศร้อนจัด เป็นตัวสะท้อนว่าเราต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงในด้านแนวทางร่วม การจัดสรรทรัพยากร และพฤติกรรมส่วนบุคคล” คลูเกอกล่าวทิ้งท้าย
(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยเดินผ่านสถานีตรวจโรคโควิด-19 ในกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี วันที่ 19 ม.ค. 2022)