"วิษณุ"ชี้คำร้อง "พิธา-ก้าวไกล"ปม ม.112 สารตั้งต้นให้โดนร้องคดีอาญา ยุบพรรค
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญสอบถามอัยการสูงสุดว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องภายใน 15 วันกรณีนายธีรยุทธ สุวรรณเกสร ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ. เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.66 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามที่ว่า หากอัยการสูงสุดไม่รับคำร้อง ผู้ร้องสามารถใช้ช่องทางตามมาตรา 49 ยื่นตรงให้ศาลรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ ว่า ศาลจะรับก็ได้ หรือไม่รับก็ได้ ต่อข้อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องจะส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่น่า เพราะเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกลไม่ใช่ตัวบุคคล และไม่มีเรื่องของการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ต่อข้อถามว่า โทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อย่าไปถามล่วงหน้า เอาให้จบเรื่องเสียก่อนเมื่อถามว่า ถือเป็นสารตั้งต้น ให้คนมาร้องคดีอาญา หรือคดียุบพรรค กรณีหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าผิดใช่หรือไม่ นายวิษณุ พยักหน้าและตอบว่า ใช่ อย่าให้ตนไปแนะนำเลย