อดีตคนไอทีวีเปิดหนังสือเลิกจ้างไม่สามารถประกอบกิจการตั้งแต่ 8 มี.ค.50

2023-06-13 10:58:52

อดีตคนไอทีวีเปิดหนังสือเลิกจ้างไม่สามารถประกอบกิจการตั้งแต่  8 มี.ค.50

Advertisement

อดีตคนไอทีวี "เอกราช" ว่าที่ ส.ส.กทม. ก้าวไกล เปิดหนังสือเลิกจ้าง ชี้ชัดไอทีวีไม่สามารถประกอบกิจการและดำเนินธุรกิจสถานีโทรทัศน์ไอทีวีได้ตามกฎหมาย ทำให้บริษัทต้องยุติการประกอบธุรกิจ ตั้งแต่   8 มี.ค.50 

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.66 นายเอกราช อุดมอำนวย ว่าที่ ส.ส. กทม. เขตดอนเมือง พรรคก้าวไกล  โพสต์ภาพหนังสือแจ้งการเลิกจ้าง ลงวันที่  6 มี.ค.50พร้อมข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Ekkarach Udomumnouy - MFP  ระบุว่า  ในฐานะอดีตคนไอทีวี ผมสะเทือนใจไอทีวีตกเป็นเหยื่อทางการเมืองอีกครั้ง  ผมไม่ได้ปฏิเสธการตรวจสอบตามสิทธิในรัฐธรรมนูญและกฎหมาย แต่ในฐานะอดีตคนไอทีวีรู้สึกเจ็บปวดที่ครั้งหนึ่งไอทีวีเคยตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง จนกระทั่งต้องปิดตัวลงไป และครั้งนี้ การที่หุ้นไอทีวี ซี่งเคยเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ประชาชนและนักลงทุน สามารถซื้อหุ้นได้อย่างเปิดเผย มีผู้ถือหุ้นนับหมื่นราย และถูกพักการซื้อขาย รวมทั้งยุติการเป็นสถานีโทรทัศน์หรือทำธุรกิจสื่อ ตั้งแต่วันที่ ครม.สมัยพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มีมติให้ยกเลิกสัญญาสัมปทานเมื่อวันที่ 7 มี.ค.60 หรือ กว่า 16 ปีแล้ว ส่วนหุ้นก็หยุดการซื้อขายมายาวนาน จนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในปี 57 การดำเนินธุรกิจเป็นเพียงการต่อสู้คดีตามกฎหมายเท่านั้น มีรายได้จากดอกเบี้ยเงินต้นที่ไอทีวีเคยประกอบกิจการเท่านั้น แต่ขณะนี้กลับมีความพยายามที่จะทำให้ส่งผลในทางที่ไม่เป็นคุณกับนายพิธา นอกเหนือจากการตรวจสอบตามสิทธิและกฎหมาย มีการแก้ไขเอกสารต่างๆ เพื่อยังทำให้เห็นว่าไอทีวียังทำธุรกิจสื่อ รวมทั้งมีการทำหนังสือไปยังศาลปกครองสูงสุดเพื่อเร่งรัดคดีไอทีวี ให้ตัดสินภายในเดือนนี้ เพื่อให้มีผลบางอย่างทางกฎหมายกับคุณพิธาโดยตรง

ผมรู้สึกสะเทือนใจที่มีความพยายามทำให้ไอทีวีฟื้นคืนชีพเพื่อมีจุดประสงค์เป็นเครื่องมือทางการเมืองอีกครั้ง เพื่อขัดขวางการทำหน้าที่ผู้แทนราษฏรและนายกรัฐมนตรีของนายพิธา ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน  ผมจึงอยากเรียกร้องในฐานะอดีตคนไอทีวีที่เคยประสบชะตากรรมต้องตกงานและเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2550 ขอให้หน่วยงานต่างๆให้ความเป็นธรรมกับนายพิธา และพิจารณาอย่างรอบคอบตามหลักของกฎหมายที่มีนิติรัฐและนิติธรรม เพราะมิใช่แค่อดีตคนไอทีวีอย่างตนที่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เป็นการใช้กระบวนการกฎหมายมาทำลายความตั้งใจทำงานทางการเมืองของคุณพิธา และทำลายความเชื่อมั่นและศรัทธาที่ประชาชนได้เลือกตั้งให้ความไว้วางใจพรรคก้าวไกลและคุณพิธาอีกด้วย รวมทั้งจะทำให้ในวงการกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันตนก็ทำหน้าที่ในฐานะทนายความและนักกฎหมายคนหนึ่งว่า หลักนิติรัฐและนิติธรรมที่ควรจะเป็น และเป็นกรณีศึกษาอีกครั้งหรือไม่ และเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญที่ห้ามถือครองหุ้นสื่อ แท้ที่จริงเพื่อการป้องกันผลประโยชน์และส่วนได้เสียทางการเมือง หรือ ใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมากกว่า

สำหรับหนังสือแจ้งการเลิกจ้าง ลงวันที่ 6 มี.ค.50 ระบุว่า  เนื่องด้วยสำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้บอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบ UHF ระหว่าง สปน. กับ ITV เป็นเหตุให้ไม่สามารถประกอบกิจการและดำเนินธุรกิจสถานีโทรทัศน์ ITV ได้ตามกฎหมาย ทำให้บริษัทต้องยุติการประกอบธุรกิจสถานีโทรทัศน์ ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.50 เป็นต้นไป  ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว บริษัทจึงต้องจำเป็นเลิกจ้างนายเอกราช ตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.50 เป็นต้นไป โดยบริษัทจะจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายแรงงาน