ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งแค่ห้ามใช้อุปกรณ์เสริมอาวุธปืนที่เรียกว่า "บัมป์-สต๊อก" เท่านั้น ส่วนสมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐฟลอริดา ยังเมินที่จะพิจารณากฎหมายห้ามขายอาวุธปืน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามในคำสั่งห้ามใช้อุปกรณ์เสริม ที่เรียกว่า "บัมป์-สต๊อก" (bump-stock) ซึ่งจะทำให้สามารถเหนี่ยวไกและกดค้างไว้ก็จะรัวยิงกระสุนเป็นชุดได้หลายร้อยนัดต่อนาที เช่นเดียวกับที่มือปืนกราดยิงแฟนเพลงในคอนเสิร์ตกลางแจ้งที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐเมื่อปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 58 ราย โดยทรัมป์ ซึ่งกล่าวที่ทำเนียบขาว ระบุว่า เขาได้สั่งให้กระทรวงยุติธรรมเสนอกฎหมายบัญญัติให้อุปกรณ์เสริมดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฎหมายแล้ว
ทั้งนี้ ประเด็นการควบคุมอาวุธปืน กลายเป็นประเด็นถกเถียงเผ็ดร้อนครั้งใหม่ หลังจากนายนิโคลาส ครูซ วัย 19 ปี ก่อเหตุกราดยิงสังหารหมู่ 17 ศพที่โรงเรียนมัธยมมาร์จอรี สโตนแมน ดักลาส เมืองปาร์คแลนด์ รัฐฟลอริดา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นักเรียนและพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงครั้งล่าสุดนี้ วางแผนจัดการประท้วงใหญ่ในเมืองแทลลาแฮสซี เมืองเอกของรัฐฟลอริดาในวันพุธ (ตามเวลาในสหรัฐ) และเมื่อวานนี้ นักเรียนประมาณ 100 คนพากันทยอยขึ้นรถบัส 3 คัน เพื่อเดินทางไกลกว่า 7 ชั่วโมงไปยังเมืองแทลลาแฮสซี เพื่อล็อบบี้ห้ามการขายอาวุธปืนไรเฟิล ซึ่งทั้งหมดก็เดินทางถึงเมืองแทลลาแฮสซีแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ ไม่ถึงสัปดาห์หลังเหตุกราดยิง สภานิติบัญญัติรัฐฟลอริดา ซึ่งพรรครีพับลิกันคลองเสียงข้างมาก ปฏิเสธ การห้ามขายอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติและเครื่องกระสุน โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติลงมติด้วยคะแนน 36-17 ไม่รับญัตติเพื่อพิจารณาคำสั่งห้ามขายปืนดังกล่าว ระหว่างการประชุม ซึ่งเริ่มต้นด้วยการสวดมนต์เพื่อรำลึกถึงเหยื่อ 17 คน