"พิธา" พบตัวแทนผู้ประกอบการภูเก็ต หารือแนวทางยกระดับเศรษฐกิจการท่องเที่ยว คุณภาพชีวิต เห็นพ้องยกเครื่องโครงสร้างคมนาคม สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การศึกษา ความปลอดภัย ดูแลทั้งนักท่องเที่ยว ชาวภูเก็ต
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.66 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยว่าที่ ส.ส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล ทั้ง 3 เขต เปิดวงพบปะและรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนผู้ประกอบการใน จ.ภูเก็ต ซึ่งมาจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกลุ่ม SMEs โดยมีการหารือแลกเปลี่ยนกันตั้งแต่เรื่องของสถานการณ์การท่องเที่ยว ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด การยกระดับสาธารณูปโภค สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialized Expo 2028 ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เสนอ จ.ภูเก็ตแข่งกันกับอีก 4 ประเทศ และจะมีการโหวตเลือกโดยประเทศสมาชิกที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 21 มิ.ย.2566 นี้
หลังการหารือ นายพิธาพร้อมด้วยตัวแทนผู้ประกอบการ จ.ภูเก็ต ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงรายละเอียดในการหารือ ซึ่งหนึ่งในวาระสำคัญคือความพร้อมของภูเก็ตในการเป็นเจ้าภาพ Specialized Expo 2028 ซึ่งพิธาระบุว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลพรรคก้าวไกลพร้อมสานต่อการเสนอตัวจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ หากการโหวตวันที่ 21 มิ.ย. นี้ผลออกมาให้ไทยได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ซึ่งการเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ จะนำมาสู่การยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านคมนาคม สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การศึกษา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้ชาวภูเก็ตไม่มากก็น้อย
นายพิธา กล่าวต่อไป ว่าข้อสรุปที่เห็นตรงกันในการพูดคุยวันนี้ คือเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของภูเก็ตจะต้องถูกยกระดับ ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวในรูปแบบเดิม แต่ต้องกระจายไม่กระจุก ต้องขยายออกไปให้หลากหลายรูปแบบ ทั้งด้านสุขภาพ กีฬา การอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ ภูเก็ตยังจำเป็นต้องดึงตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับมาให้เป็นปกติในช่วงก่อนโควิดได้เร็วที่สุด ที่สำคัญการท่องเที่ยวต้องเป็นมากกว่าการท่องเที่ยว คือระบบสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม คมนาคม และความปลอดภัยที่ดี เป็นการสร้างระบบนิเวศให้การท่องเที่ยว
ส่วนเรื่องของการกระจายอำนาจ พิธาระบุว่าแม้จะมีมุมมองว่าจังหวัดใหญ่ในประเทศไทยมีความพร้อมกว่าในการกระจายอำนาจ งบประมาณ ภารกิจ และบุคลากร แต่พรรคก้าวไกลยืนยันว่าการการกระจายอำนาจไม่ควรเริ่มที่บางจังหวัดก่อน เพราะในระบบที่เป็นอยู่ เวลาราชการส่วนกลางคิดเรื่องงบประมาณจะคิดตามฐานประชากร เช่นที่ภูเก็ตเอง ต้องรับผิดชอบนักท่องเที่ยวและคนที่เข้ามาทำงานอีกจำนวนมาก แต่กลับได้รับการจัดสรรงบประมาณโดยคิดจากฐานประชากร ซึ่งไม่สอดคล้องกับความต้องการจริง
ผู้สื่อข่าวยังได้ถามว่าการชนะของพรรคก้าวไกลใน จ.ภูเก็ต จะนำไปสู่ยุทธศาสตร์ต่อยอดเพื่อเอาชนะในจังหวัดภาคใต้อื่นๆ ในอนาคตอย่างไร พิธาระบุว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้คิดถึงยุทธศาสตร์เป็นหลัก แต่คิดถึงการทำงานให้เห็นผลจริงสำหรับประชาชน สิ่งที่เราจะทำคือการรักษาคำสัญญา ในเมื่อคนภูเก็ตเปลี่ยนใจและให้ความไว้วางใจ เลือกเราเพิ่มขึ้นมาจาก 20% กว่ามาเป็น 40% กว่า ก็ต้องไม่ทำให้ผิดหวัง นโยบายดีๆ ของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็นสุราก้าวหน้า ปลดล็อกท้องถิ่น การบริหารสิ่งแวดล้อม จะต้องทำให้ประชาชนสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 4 ปี