"ปิยบุตร"ชี้ "พิธา"เผชิญหน้านิติสงคราม ปลุกหยุดขบวนการฉายหนังซ้ำหลอกหลอนสังคมไทย
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.66 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า นิติสงคราม ดำเนินการผ่าน2 กลไกสำคัญ กลไกแรก กระบวนการทำให้ประเด็นทางการเมืองเป็นคดี และอยู่ในมือศาล หรือที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Judicialization of Politics รัฐธรรมนูญแปลงสภาพเรื่องการเมือง ให้กลายเป็น ข้อพิพาทคดีความ ให้หมด แล้วสร้างศาลและองค์กรอิสระที่ถูกทำให้เชื่อว่า ศักดิ์สิทธิ์ เป็นกลาง อิสระ ให้พวกเขามีอำนาจเด็ดขาดในการชี้ขาด บวกกับมีนักร้อง ทำหน้าที่ร้อง เขี่ยลูกเปิดเกม แทงสนุ้กลูกขาวระเบิดกลุ่มแดง เพื่อให้ศาลและองค์กรอิสระมาจัดการกวาดหมดโต๊ะ กลไกที่สอง กระบวนการนำเรื่องการเมืองซึ่งอยู่ในมือศาลแล้ว เอาไปไว้ในมือสื่อ หรือ Mediatization of Jucial/Political Cases เมื่อนักร้องเริ่มต้น ก็จะมีสื่อทำหน้าที่ปั่นข่าวทุกวัน นิติสงคราม ยังใช้กลไกสื่อกลบหลักการคุณค่าพื้นฐานไปเสียหมด เช่น แทนที่คนจะคิดว่ากรณีถือหุ้นถูกนำมาใช้อย่างผิดเพี้ยน ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ เป็นกฎหมายล้าสมัยที่ไม่สามารถป้องกันนักการเมืองชี้นำผ่านการเป็นเจ้าของสื่อได้จริง แต่คนกลับพร้อมใจกันไปคิดว่า นักการเมืองพลาดเอง โง่เอง รู้อยู่แล้วว่าเขาจ้องเล่นงาน ทำไมไม่ระวัง ไม่น่าเลย พลาดง่ายๆ ทางกฎหมาย ถ้าเก่งกฎหมายสักหน่อย ก็รอดแล้ว เป็นต้น
นายปิยบุตร ณ เวลานี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและพรรคก้าวไกลกำลังเผชิญหน้ากับนิติสงครามอีกครั้ง จึงต้องหยุดสองกลไกนี้เมื่อ นิติสงครามมีฐานจากการเมือง แล้วเอากฎหมายบังหน้า เมื่อนิติสงครามเป็นการต่อสู้ฟาดฟันกันทางการเมืองโดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ มันจึงมีสองมิติ “การเมือง+กฎหมาย” ผสมผสานกัน การต่อสู้กับนิติสงคราม จึงต้องใช้ทั้งการเมืองและกฎหมาย ร่วมกันหยุดนิติสงคราม ไม่ให้หนังม้วนเก่าที่ฉายซ้ำหลายรอบวนเวียนตั้งแต่ปี 2548 กลับมาหลอกหลอนสังคมไทยอีกต่อไป