รวบคาชุดแม่ชีหลอกลงทุนบริหารเช่าพื้นที่เหยื่อกว่า 3,000 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 1,300 ล้าน
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกบริษัทแห่งหนึ่งหลอกลวงชักชวนให้เข้าร่วมการลงทุนในการให้บริหารเช่าพื้นที่บน Cloud Storage ต่อมาบริษัท ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนจนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย แจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้ 3,531 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,303,127,202.99 ล้านบาท ผู้ต้องหาเป็นกรรมการที่มีอำนาจลงนามในบริษัทได้หลบหนีหายเข้ากลีบเมฆตั้งแต่หมายจับออกเมื่อวันที่ 3 พ.ค.65 กลุ่มผู้เสียหายจึงได้ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล IDMB ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางพัฒนา (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่โดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้จากหน่อยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หัวหน้าชุด PCT 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นางพัฒนา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 79/2565 ลงวันที่ 3 พ.ค.65 ฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในสถานปฏิบัติธรรมนาโสกวิปัสสนา ฐิตธัมโม ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ทั้งนี้ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกบริษัทร่วมกันหลอกลวงชักชวนให้เข้าร่วมการลงทุนในการให้บริหารเช่าพื้นที่บน Cloud Storage โดยเสนอผลตอบแทนให้แก่ผู้ร่วมลงทุนในอัตราสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน คล้ายลักษณะแชร์ลูกโซ่จนเป็นเหตุให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ต่อมาบริษัทฯ ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนจนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย แจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้ 3,531 ราย เข้ามาให้การต่อพนักงานสอบสวนแล้ว 2,878 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,303,127,202.99 ล้านบาท และยังไม่มาให้การอีก จำนวน 653 ราย ทั้งนี้ ในส่วนของคดีทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 ราย คือ นายศุภสรร กรรมการบริษัท และประสาน ปปง.ติดตามทรัพย์สินของผู้ต้องหาเพื่อเป็นการเยียวยาให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง ทั้งนี้ ยังมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและหลบหนีโดยไม่สามารถติดตามตัวได้ โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวมีหมายจับของ สภ.แม่ทะ ภ.จว.ลำปาง ติดตัวในความผิดเดียวกัน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI อยู่ระหว่างพิจารณาเสนอต่อศาลเพื่ออนุมัติออกหมายจับ คือ นางพัฒนา เป็นมารดาของนายศุภสรร ซึ่งเป็นกรรมการที่มีอำนาจลงนามในบริษัท โดยได้หลบหนี ตั้งแต่หมายจับออกเมื่อวันที่ 3 พ.ค.65 กลุ่มผู้เสียหายจึงได้ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาลช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางพัฒนา ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่โดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้จากหน่อยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาขณะบวชชีอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมนาโสกวิปัสสนา ฐิตธัมโม ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้ข้อมูลว่าเดิมทีตนเป็นอาจารย์สอนระดับมัธยมศึกษาในพื้นที่ จ.อ่างทอง หลังเกษียณบุตรชายได้ขอนำชื่อตนไปเป็นกรรมการในบริษัท โดยที่ตนไม่ทราบการดำเนินกิจการของบริษัทดังกล่าวนั้นแต่อย่างใด ตลอดจนของให้การอื่นๆ ในชั้นสอบสวนและชั้นการพิจารณาคดีของศาล ทั้งนี้ ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบตัวขณะที่ผู้ต้องหาบวชชีและปฏิบัติธรรมอยู่ในสถานปฏิบัติธรรม โดยมีอดีตสามีบวชเป็นพระอยู่ในสถานปฏิบัติธรรมเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าอาจเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการให้ตนเองนั้นรอดพ้นจากการสืบสวนจับกุมตัวตามหมายจับในคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ ภ.จว.ลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป