ตร.ไซเบอร์เปิดยุทธการฟ้าสางนครชัยศรีรวบ 2 ผู้ต้องหาแฮกเหรียญคริปโต

2023-06-02 10:56:49

 ตร.ไซเบอร์เปิดยุทธการฟ้าสางนครชัยศรีรวบ 2 ผู้ต้องหาแฮกเหรียญคริปโต

Advertisement

ตร.ไซเบอร์เปิดยุทธการฟ้าสางที่นครชัยศรีรวบ 2 ผู้ต้องหาแฮกเหรียญคริปโตสูญเงินเกือบ 20 ล้าน

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.66  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 ดำเนินการเร่งปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการแฮ็กระบบเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง โดยในเคสนี้ผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาหลอกลวงจนเชื่อใจยอมย้ายไปอยู่ด้วยกันกับผู้ต้องหาและระหว่างที่อยู่ด้วยกันผู้เสียหายได้ส่งมอบข้อมูลรหัสผ่านในกระเป๋าเงินดิจิทัลของตัวเองให้ผู้ต้องหาเพราะความเชื่อใจ จนกระทั่งทางครอบครัวของผู้เสียหายติดตามจนเจอ จึงได้พาตัวผู้เสียหายกลับไปอยู่บ้านและไม่ได้ติดต่อกับทางผู้ต้องหาอีก ต่อมาผู้เสียหายพบว่าอีเมล์ของตนมีการแจ้งเตือนการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากแพลตฟอร์มไบแนนซ์ของผู้เสียหาย ตรวจสอบแล้วพบว่าถูกโอนไปที่แพลตฟอร์มบิทคับ มูลค่าประมาณเกือบ 20 ล้าน จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.2  บก.สอท.1 เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา


จากการสืบสวนพบว่า มีการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้เสียหายออกไปจำนวน 20 ครั้ง เป็นการโอนไปที่กระเป๋าเงินดิจิทัลบนแพลตฟอร์มบิทคับของ นายศุภณัฐ จำนวน 15 ครั้ง รวมเป็นเหรียญสกุลดิจิทัลจำนวน 382,563.58 USDT (มูลค่าประมาณ 12 ล้านบาทเศษ) เป็นการโอนไปที่กระเป๋าเงินดิจิทัลบนแพลตฟอร์มบิทคับของ นายอัศวิน จำนวน 5 ครั้ง รวมเป็นเหรียญสกุลดิจิทัลจำนวน 105,118.55 USDT (มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาทเศษ) ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นได้นำหมายค้นศาลจังหวัดนครปฐม เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พบผู้ต้องหาทั้งสองตามหมายจับ คือ 1.น.ส.อภิสรา อายุ 54 ปี ชาว จ.นนทบุร 2.นายอัศวิน อายุ 32 ปี ชาว จ.มหาสารคาม จึงได้ดำเนินการจับกุมพร้อมแจ้งให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมีได้มีไว้สำหรับตนและทำให้เสียหาย ทำลายแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบโดยเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และร่วมกันลักทรัพย์ และฟอกเงิน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย