"มัลลิกา" ดักคอ ส.ว.หยุดเสนอช่องทางสร้างเงื่อนไข

2023-06-02 09:19:26

"มัลลิกา" ดักคอ ส.ว.หยุดเสนอช่องทางสร้างเงื่อนไข

Advertisement

"มัลลิกา" ขอทุกฝ่ายทำหน้าที่ตัวเอง  ดักคอ ส.ว.หยุดเสนอช่องทางอื่น หวั่นผูกเงื่อนไขจนหาทางออกไม่ได้

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.66  ดร.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข  อดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  กล่าวว่า ต่อกรณีข้อเสนอทางออกของประเทศไทยในหลายมิตินั้นเชื่อว่าจะนำไปสู่ความยุ่งยากและสร้างเงื่อนไขต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดคือขอให้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ กกต.รับรอง คณะกรรมการการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเองตามรัฐธรรมนูญให้สมบูรณ์เสร็จสิ้นและยึดถือเอากติกาทั้งในส่วนของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งและตัวบทกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้วินิจฉัยจนสิ้นสุด จะเป็นเหตุเป็นผลสำหรับการยอมรับได้ของทุกฝ่ายแต่หากไปหาหนทางอื่นนอกเหนือจากที่กติกาและกฎหมายกำหนดจะกลายเป็นผูกเงื่อนไขเพิ่มขึ้นจนหาทางออกไม่ได้  อย่างกรณีของหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่คุณสมบัติจะได้หรือไม่นั้นสมควรอย่างยิ่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะได้เร่งดำเนินการในส่วนหน้าที่ของตนเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐานให้เร็วที่สุดแล้วส่งเรื่องไปสู่การพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

ดร.มัลลิกา กล่าวด้วยว่า กรณีการถือหุ้นสื่อของหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นประเด็นที่ ส.ว.มีความกังวลที่สุดเนื่องจาก ส.ว.มีหน้าที่โดยตรงตามรัฐธรรมนูญในการกลั่นกรองบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งก็ไม่ใช่แค่เฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้นแต่ยังมีตำแหน่งในองค์กรอิสระอื่นด้วยดังนั้นความกังวลของ ส.ว.นั้นทุกฝ่ายทราบดี อย่างไรก็ตามกรณีนายพิธานั้นบัดนี้เหลือเพียงเงื่อนไขเดียวคือเรื่องคุณสมบัติ เพราะเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 112 ไม่ได้อยู่ใน MOU ของการจัดตั้งรัฐบาลแปลว่าไม่ผลักดันแก้หรือยกเลิกกฎหมายในฐานะรัฐบาล  แม้ว่าทุกฝ่ายจะมีความกังวลใจว่า ส.ส. 151 คนของพรรคก้าวไกลจะไปผลักดันเองในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและในการประชุมรัฐสภานั้นก็เป็นเรื่องอนาคต ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมี 500 คนแต่มีจำนวนเพียงแค่ 151 คนเท่านั้นที่จะไปดันการแก้ไขยกเลิกมาตรา 112 จึงเชื่อว่านอกจากจะบรรจุวาระไม่ได้เหมือนกับครั้งที่ผ่านมาแล้วแม้ดันทุรังเข้าไปก็ไม่มีใครให้ผ่านอยู่ดีเพราะทุกพรรคไม่มีใครเอาด้วย  และไม่ใช่เพียงแค่ทุกพรรคที่ไม่เอาด้วยแต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่เอาด้วย หลักฐานชัดเจนที่สุดคือ 27 ล้านเสียงที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับพรรคก้าวไกล ดังนั้นการแก้ปัญหาเวลานี้เพียงยึดถือกติกาและช่องทางที่มีอยู่ก็จัดการปัญหาได้แล้วอย่าไปหาทางออกที่เป็นการหาเรื่องให้เป็นเงื่อนไขไม่สิ้นสุด