“ป้าจรูญ” เข้าแจ้งความกับกองปราบหลังถูกอดีตเพื่อนในแก๊งร่วมหุ้นซื้อลอตเตอรี่ สร้างพยานหลักฐานเท็จ แจ้งความว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 แต่ยักยอกไม่แบ่ง ยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำป้าจรูญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นางเรวดี (ขอสงวนนามสกุล) หรือ “ป้าติ้น” อดีตตำรวจ และ นางวิไลพร (ขอสงวนนามสกุล) หรือ “ป้าเล็ก” ที่กองบังคับการปราบปราม ในข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา และแจ้งเจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ โดยระบุว่า ป้าติ้นร่วมหุ้นซื้อลอตเตอรีกับป้าจรูญคนละครึ่งที่คำชะโนด จ.อุดรธานี แล้วถูกหวย 30 ล้าน รางวัลที่ 1 เลข 392785 จำนวน 5 คู่ งวดวันที่ 1 เม.ย 2560 แล้วมาแจ้งความกล่าวหาว่าป้าจรูญ อ้างว่า ยักยอกลอตเตอรี่หนีไป ที่ สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี โดยป้าติ้นอ้างว่าได้เซ็นลายมือชื่อวันที่ 28 มี.ค.2560 หลังล็อตเตอรี่ แต่ท้ายที่สุดพนักงานสอบสวนมีคำสั่งไม่ฟ้องป้าจรูญ เนื่องจากได้ทำเรื่องตรวจสอบที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว ไม่มีผู้ใดนำสลากตามที่กล่าวอ้างมาขึ้นรางวัล
ป้าจรูญ เล่าว่า เคยถูกป้าติ้นข่มขู่พาทหารมาดักหน้าบ้านย่านรามคำแพงเพื่อขอดูลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล บอกว่าเป็นทหารจริงจากแถวดอนเมือง ส่วนตัวเชื่อว่าป้าติ้นจะหลอกเอาเงิน เพื่อมาชำระหนี้สินจากการพนัน อีกทั้งที่มาวันนี้เพื่อแจ้งความเอาไว้ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเหมือนกับกรณีของนางสุดารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ “ป้าดา” ที่ถูกป้าติ้นสร้างหลักฐานเท็จจนติดคุกแต่ได้ประกันตัว ส่วนป้าเล็กนั้นเป็นเพื่อนสนิทกันในแก๊ง เชื่อว่าอยู่ในขบวนการเดียวกันป้าติ้น พร้อมยืนยัน เลขที่ถูกรางวัล เป็นคนละเลขกับที่ตนเองซื้อ แล้วมาอ้างว่าถูกรางวัลแต่ไม่แบ่ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ป้าติ้น เคยมีคดีแบบเดียวกันนี้ โดยการกล่าวหาป้าดา ร่วมหุ้นแล้วถูกหวย 30 ล้านแล้วยักยอกในพื้นที่ สน.ประเวศ ในงวดวันที่ 1 เม.ย 2559 โดยอ้างว่าถูกหวย 30 ล้านบาท 2 ปีซ้อนในวันที่ 1 เม.ย ในปี 2559 และ 2560