แฉ “ไอ้ชิต สายเบิร์น” ชวดประกันเหตุหลักทรัพย์ไม่พอต้องนอนคุกคืนแรกสุดเครียด ไม่สำนึกบอกเมียให้จัดหาทนายความสู้คดี ส่วน นศ.หญิงสุขภาพจิตดีขึ้น ขณะที่อาจารย์เตรียมเข้าหารือสำนักยุติธรรมจังหวัดให้ติดตามคดีเอาผิดถึงที่สุด ด้านชาวบ้านในชุมชนเรียกร้องให้ไฟฟ้าเพิ่มแสงสว่างริมทางป้องกันเหตุร้ายให้นักศึกษา
กรณีตำรวจจับกุมตัว นายทิษณุ โถนารัตน์ หรือชิต สายเบิร์น อายุ 29 ปี ชาว อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่า นศ.ชาย และข่มขืน นศ.หญิง ม.กาฬสินธุ์ ซึ่งหลังจากตำรวจทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปแล้วได้นำตัวไปส่งฝากขังต่อศาล จ.กาฬสินธุ์
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจนำนายทิษณุ โถนารัตน์ หรือชิต สายเบิร์น ส่งฝากขังที่ศาล จ.กาฬสินธุ์ “ชิต สายเบิร์น” มีสภาพอิดโรยและมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ได้แต่บ่นพึมพำอยู่ในลำคอ ทั้งนี้มีรายงานว่า มีญาติพยายามนำหลักทรัพย์มาประกันตัวแต่ไม่เพียงพอ เนื่องจากตำรวจได้ตั้งถึง 7 ข้อหาหนัก ประกอบด้วยข้อหา 1.พยายามฆ่าผู้อื่น 2.ข่มขืนใจผู้อื่นไม่กระทำการโดยมีอาวุธ 3.พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุอันสมควร 4.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรืออยู่ในภาวะที่ไม่ขัดขืน 5.ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร 6.กักขังหน่วงเหนี่ยว 7.ปล้นทรัพย์ ที่ต้องใช้หลักทรัพย์หลายแสนบาทมาประกันตัว
ทำให้เมื่อคืนนี้ ชิตสายเบิร์น ต้องนอนอยู่ในคุกเป็นคืนแรก ที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ ผู้คุมต้องแยกออกจากผู้ต้องขังทั่วไปเนื่องจากคนร้ายรายนี้ จัดเป็นบุคคลอันตรายเพราะมีสภาพจิตใจไม่ปกติ และมีรายงานว่า ชิต สายเบิร์น ได้บอกให้เมียจัดหาทนายความเพื่อต่อสู้คดี โดยจะใช้ข้ออ้างว่าตนเองมีจิตไม่ปกติ เพราะเคยไปรับการบำบัดที่ รพ.จิตเวชขอนแก่น
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ ม.กาฬสินธุ์ ยังคงทำการเรียนการสอนตามปกติ แต่ นศ.ชั้นปีที่ 2 ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านตนเอง แต่สุขภาพจิตเริ่มดีขึ้น ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากอาจารย์ผู้สอนคนหนึ่งว่า ในขณะนี้ทุกคนต้องสร้างกำลังใจและเป็นไปได้จะต้องยุติเรื่องการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในส่วนของคดีเกรงว่า ชิต สายเบิร์น จะต่อสู้คดี ก็จะไปปรึกษาหารือสำนักยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ ในวันพรุ่งนี้เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดีอีกทาง
ด้านชาวบ้านในชุมชนก็ยังคงพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะมาตรการรักษาความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะถนนในหมู่บ้าน ตั้งแต่ทางเข้า ม.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านเรียกร้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้รับผิดชอบเข้ามาจัดให้มีไฟแสงสว่างมากขึ้น พร้อมกับเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยใน ม.กาฬสินธุ์ด้วย