"บิ๊กโจ๊ก"นำทีมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลางกรุงพนมเปญ

2018-02-16 13:50:55

"บิ๊กโจ๊ก"นำทีมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลางกรุงพนมเปญ

Advertisement

"บิ๊กโจ๊ก"นำทีมบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เครือข่าย “เฉิน หยวน ไข่” กลางกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พบคนไทยกว่า 25 คน ร่วมขบวนการ มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท


เมื่อวันที่ 16 ก.พ. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบก.ทท.) นำกำลังตำรวจไทย และตำรวจกัมพูชา เข้าตรวจสอบ รพ.ร้างแห่งหนึ่ง กลางกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จากการตรวจค้นพบ อุปกรณ์ และคนเฝ้าดูแล ชาวกัมพูชา 2 คน โดยตำรวจพบอุปกรณประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เอกสารบัญชีรายชื่อ ซึ่งถูกบันทึกไว้มีการโทรเข้าออกจำนวนมาก ต่อมาได้ขยายผล เข้าจุดที่ 2 ห่างจากจุดแรกประมาณ 3 กม. เป็นบ้านเช่าหรูขนาดใหญ่ พบผู้ต้องหาชาวไต้หวัน 4 คน ชาวไทย 25 คน และชาวกัมพูชา 3 คน พร้อมอุปกรณ์ประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เอกสารบัญชีรายชื่อ ซึ่งถูกบันทึกไว้ว่ามีการโทรเข้าออก คล้ายกับจุดแรกอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน สำหรับจุดที่ 3 เป็นบ้านหลังหนึ่ง ณ เมืองกัมปงโสมหรือเมืองพระสีหนุ พบผู้ต้องหาชาวไต้หวัน 2 คน ชาวไทย 1 คน โดย 2 ใน 3 คน มีหมายจับอยู่ในประเทศไทยด้วย จากการตรวจค้นพบอุปกรณ์เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญขณะเข้าจับกุม พบคนไทยกำลังโทรศัพท์กลับมายังประเทศไทย เพื่อหลอกเหยื่อให้โอนเงินด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจับกุมแก๊งคอลเซนเตอร์ข้ามชาติกลุ่มนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้ประสานงานกับรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการหน่วยรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนของกัมพูชา เพื่อร่วมหารือแนวทางการทำงานร่วมกัน หลังพบเบาะแสว่ามีการตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อหลอกลวงคนไทยกันเอง มูลค่าความเสียหายนับ 100 ล้านบาท โดยใช้กัมพูชาเป็นศูนย์สั่งการ


พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวน พบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าวเป็นเครือข่ายของนายเฉิน หยวน ไข่ ชาวไต้หวัน และกลุ่มชาวมาเลเชีย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยตั้งถิ่นฐานที่ประเทศไทย ก่อนจะถูกทางการไทยจับกุมตัวได้ ต่อมาได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ก่อนหนีประกันตัวหลบหนีออกนอกประเทศ ย้ายฐานที่มั่นมาที่กรุงพนมเปญ กรุงกัวลาลัมเปอร์





พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ให้ข้อมูลด้วยว่า แก๊งคอลเซนเตอร์กลุ่มนี้ ร่วมมือกับชาวไต้หวัน จีนและมาเลเซีย บังคับคนไทย มาเป็นพนักงาน เพื่อหลอกลวงคนไทยด้วยกัน หากใครปฏิเสธก็จะกักขังและทำร้ายร่างกาย ให้เสพสารเสพติด แต่ก็มีคนไทยบางรายร่วมมือกับแก๊งคอลเซนเตอร์กลุ่มนี้ด้วย ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง