เอ่ยถึง อาหารจานโปรดที่เป็นที่นิยมของชนชาวจีนมาช้านานหลากหลายยุคสมัย คงหนีไม่พ้น “เต้าหู้” ซึ่งมีให้เลือกรับประทานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ในแบบ "น้ำเต้าหู้" หรือในแบบทำเป็นก้อน เพื่อนำไปหั่นปรุงอาหารเมนูต่างๆ ทั้งผัด นึ่ง ทอด
“เต้าหู้” มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 2,000ปี โดยชาวจีนถือว่า เต้าหู้ เป็นอาหารธรรมดาที่มีคุณค่าอย่างมาก ซึ่งจริงๆ แล้วชาวจีนจะเรียก “เต้าหู้” ว่า “โตวฟู” คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า โทฟุ (tofu) ขณะที่คนไทยเรียกคำเพี้ยนมาเป็น “เต้าหู้”
สำหรับกำเนิด “เต้าหู้” มีประวัติศาสตร์เล่าขานกันมาว่า เมื่อเจ้าชายหลิวอัน ในราชวงศ์ฮั่น เห็นว่าพระมารดาประชวรหนักจนพระองค์ไม่มีเรี่ยวแรง จึงได้สั่งให้พ่อครัวอาหารจีน นำเอาถั่วเหลืองไปบดให้เป็นผงแล้วให้ใส่เกลือลงไป เพราะกลัวว่าน้ำถั่วเหลืองจะจืดไป เมื่อพระมารดาได้เสวยถึงกับบอกว่า “อร่อยมากๆ” เมื่อเจ้าชายหลิวอัน ได้ทรงทราบว่า น้ำถั่วเหลืองเป็นที่พอพระทัยพระมารดามาก ก็ให้พ่อครัวศึกษาเกี่ยวกับน้ำถั่วเหลือง จนกระทั่งกลายเป็นสูตรการทำเต้าหู้ขึ้นมานั่นเอง
สำหรับคุณประโยชน์ของเต้าหู้นั้น จะให้ “โปรตีน” มากกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดเป็น 2 เท่า แต่มีราคาที่ถูกกว่ากันมาก และยังมีการศึกษาต่อไปอีกพบว่า เต้าหู้ ยังมี “เลซิติน” ซึ่งมีผลในการลดไขมันและช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำ รวมทั้งฮอร์โมนจากพืชที่เรียกว่า ไฟโตเอสโทรเจน ที่มีการวิจัยพบว่ามีผลในการป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อผู้หญิงวัยทองคือ ช่วยชะลอภาวะหมดประจำเดือนและลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีอายุ 50ขึ้นไป เพราะเต้าหู้จะช่วยในระบบย่อยอาหารทำให้ย่อยง่ายขึ้น
ติดตามชมเรื่องราวน่ารู้ของ "เต้าหู้" เพิ่มเติมได้ในสารคดีจีน "เปิดแดนมังกร" ออกอากาศวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 17-18 ก.พ.นี้ เวลา 22.15 น. ทางสถานีโทรทัศน์นิว 18