"นพดล"ดีเบตนโยบายต่างประเทศ พท. กอบกู้ศักดิ์ศรี เกียรติภูมิของประเทศกลับคืนหลังรัฐประหาร ปกป้องผลประโยชน์คนไทย หนังสือเดินทางไทยต้องแข็งแรงไปได้ทั่วโลก
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.66 ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย (พท.) ร่วมดีเบตประชันวิสัยทัศน์ในหัวข้อ "รัฐบาลใหม่" ไทยอยู่จุดไหนบนเวทีโลก? ร่วมกับตัวแทนพรรคการเมืองอื่นอีกรวม 9 พรรค
นายนพดล กล่าวถึงนโยบายด้านการต่างประเทศของพรรคเพื่อไทย เป็นนโยบายต่างประเทศเชิงรุก เพื่อเพิ่มพูนบทบาทของไทยในเวทีโลก และกอบกู้ศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของประเทศไทยกลับคืนมาภายหลังการรัฐประหารไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว นโยบายต่างประเทศของพรรคเพื่อไทย จะตอบโจทย์ด้านเศรษฐกิจและยึดประโยชน์แห่งชาติเป็นที่ตั้ง ประกอบด้วย การฟื้นฟูบทบาท ฟื้นความเชื่อมั่น ฟื้นเกียรติภูมิของไทยในเวทีโลก บนพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศ ปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน การกำหนดท่าทีของประเทศอย่างเหมาะสมและสมดุลในพลวัติภูมิรัฐศาสตร์โลก บทบาทไทยเป็น Active Promoter of PEACE & Prosperity เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของไทยในต่างประเทศ การปกป้องผลประโยชน์ของคนงานไทย คนไทย และธุรกิจของไทยในต่างประเทศ รวมทั้ง เน้นให้หนังสือเดินทางไทยแข็งแรง เดินทางง่ายได้ทั่วโลก เร่งเจรจายกเว้นวีซ่าให้พาสปอร์ตไทย
นายนพดล กล่าวต่อว่านโยบายต่างประเทศที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจ จะเป็นนโยบายต่างประเทศที่กินได้ เชื่อมโลก เชื่อมไทยเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังเพิ่มการเปิดตลาดการค้า หาโอกาสการค้าการลงทุน ประกอบด้วย 1. การเพิ่มซึ่งรายได้จากการค้าชายแดนแบบก้าวกระโดด เปิดด่านใหม่กับเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา มาเลเซีย เจรจาให้การค้าขายไร้รอยต่อระหว่างกัน 2. เปิดตลาดและโอกาสทางการค้าให้สินค้าไทย โดยเร่งเจรจาข้อตกลงทางการค้า FTA กับสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร ตั้งเป้าเสร็จภายใน 1 ปี 3. หาตลาดใหม่ Emerging Markets 4. Embassies & Team Thailand as Salesman to promote Thai products 5. ผลักดัน Soft Power ทางการทูตไทย และพลัง Soft Power ด้านอื่น ๆ ของไทย
นายนพดล ยังได้กล่าวถึง การใช้ตำแหน่งและจุดแข็งของไทยทางภูมิศาสตร์ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และศูนย์กลางการบินในภูมิภาค เร่งสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมหนองคายและลาว สร้างทางรถไฟจากหนองคายเชื่อมแหลมฉบังเพื่อการขนส่งสินค้าเชื่อมจีนภาคใต้ สำหรับนโยบายต่างประเทศเพื่อความมั่นคงและมุ่งลดราคาพลังงาน ต้องหาแหล่งพลังงานเพิ่ม โดยเจรจาพัฒนาแหล่งพลังงานในพื้นที่อ้างสิทธิ์ซ้อนทับทางทะเลไทย-กัมพูชา รวมถึงการสร้างรายได้จากการพลิกฟื้นประมงไทยให้กลับมาเป็นมหาอำนาจอีกครั้ง โดยเปิดเจรจาเรื่อง IUU กับ สหภาพยุโรป และการประสานความร่วมมือกับมิตรประเทศในการแก้ปัญหาและความท้าทายของโลกใหม่ ๆ เช่น วิกฤตโลกร้อน PM. 2.5 อาชญากรรมไซเบอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ เป็นต้น
"เรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน เป็น 2 ด้านของเหรียญเดียวกัน ถ้าเราจะให้เรื่องสิทธิมนุษยชนได้รับการคุ้มครอง สิ่งที่สำคัญมากที่สุดอยู่ที่การทำให้ประเทศนี้ เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นแนวทางของนานาอารยประเทศ ควบคู่ไปกับการทำให้ระบอบยุติธรรมของประเทศตรวจสอบได้โดยประชาชน ให้อำนาจอธิปไตยมาจากประชาชน และประชาชนตรวจสอบได้ นั่นก็หมายความว่าการรณรงค์เรื่องสิทธิมนุษยชนต้องควบคู่ไปกับการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดย สสร. ที่มาจากประชาชนครับ" นายนพดล กล่าว