"ชัยธวัช" มั่นใจ "ก้าวไกล" กวาด ส.ส.มากกว่าสมัย "อนาคตใหม่"ลุ้นทะลุ 100 ที่นั่ง ปชช.อยากเปลี่ยน ส.ส.เขตแบบเดิม
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 66 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงคะแนนความนิยมของพรรคก้าวไกล หลังเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่สามย่าน มิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า เสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว การที่มีคนมาร่วมฟังการปราศรัยเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ก็เป็นอีกตัวชี้วัดหนึ่ง เพราะไม่ได้มีเฉพาะคนรุ่นใหม่ แต่มีหลากหลายรุ่นมาก และมากันทั้งครอบครัว ทั้งยังสอดคล้องกับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ ที่ออกมาต้อนรับเราดีมากกว่าเมื่อปี 2562 รวมถึงการทำโพลของพรรคก้าวไกลพบว่า เราได้รับการสนับสนุนมากกว่า 2562 มาก
เมื่อถามว่า ตั้งเป้าว่าจะได้ส.ส.จำนวนเท่าใด นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้ายังสามารถเพิ่มคะแนนความนิยมได้ในระดับนี้จนถึงวันเลือกตั้ง หรือสามารถทำให้ก้าวกระโดดได้อีก ก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้ ส.ส.เกิน 100 คน แต่อย่างน้อยตอนนี้มั่นใจแล้วว่า เราน่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าสมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่ ส่วนคะแนนป็อปปูลาโหวต คิดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 30% ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ เท่ากับว่าจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 30 คน หรือมากกว่านั้น ประเมินจากผลงานที่เราทำ และความแตกต่างโดดเด่นของพรรคก้าวไกล รวมถึงบุคคลากรในรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น ที่เชื่อว่าจะตอบโจทย์ประชาชนมาก และแตกต่างจากผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอื่นๆ แต่จุดเน้นที่สุดคือ ผู้สมัคร ส.ส.เขต
เมื่อถามว่า ความนิยมของพรรคก้าวไกลที่ทะยานสูงขึ้นมาจากสาเหตุใด นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนคิดว่า เป็นความชัดเจนอย่างต่อเนื่องของการทำงานจริงตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนรับรู้ได้ว่าเราทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา และมีความมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ปัญหาที่ต้นตอ ปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือ ประชาชนจำนวนมากอยากเห็นน้ำใหม่ทางการเมืองเข้าไปบริหารประเทศ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่แกนนำพรรคเพื่อไทย บางส่วนเริ่มกังวลว่าจะแพ้เลือกตั้งให้พรรคก้าวไกล ในพื้นที่เขตเมือง ประมาณ 50 เขต เพราะผู้สมัครส.ส.เขต บางคนหวังแค่กระแสพรรคเพื้อไทยจึงไม่ลงพื้นที่หาเสียง นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่างแรก พรรคก้าวไกล ไม่ได้แข่งกับพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่แข่งขันกับทุกพรรค โดยแต่ละพื้นที่มีสถานการณ์การแข่งขันไม่เหมือนกัน บางเขตแข่งกับพรรคหนึ่ง และบางเขตแข่งกับ 2 พรรค และ อย่างที่สอง เราไม่ได้โฟกัสแค่เขตเมือง แต่เรามั่นใจว่าจะชนะในเขตอื่นที่ไม่ใช่เขตเมืองด้วย ปัจจัยสำคัญคือ การทำงานอย่างหนักของผู้สมัคร ส.ส.เขต เพื่อให้เข้าถึงประชาชนที่สุด จึงเกิดการเปรียบเทียบกับนักการเมืองเดิมๆ ในอดีต และทำให้เกิดกระแสที่ประชาชนอยากเปลี่ยนส.ส.เขตแบบเดิมๆ