"แพทองธาร" ลั่นเลือก พท.พร้อมแก้ไขทุกวิกฤต "เศรษฐา" ยันพร้อมดันเศรษฐกิจโต เงินภาษีทุกบาทต้องตกกับ ปชช.ทุกคน
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.66 พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเวทีปราศรัย "กรุงเทพฯ ตะวันออก : ศูนย์กลางธุรกิจใหม่" ณ ลานสวนสยาม เขตคันนายาว กทม. นำโดย น.ส. แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยผ่านระบบวีดีโอคอล ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 2,000 คน ว่า พท.มีความพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นรัฐบาล เพื่อบรรเทาวิกฤตจากเกือบทศวรรษที่ผ่านมา ให้ชีวิตของพี่น้องได้กินดีอยู่อีกครั้ง โดยนโยบายมากมายจากพรรคเพื่อไทย รวมถึงนโยบายที่จะทำให้กรุงเทพมหานครฯ กลับมาน่าอยู่ และเป็นเมืองแห่งโอกาสของคนไทยทุกคน รวมถึงนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เงินดิจิทัลวอลเล็ต และสร้างโอกาสให้พี่น้องได้มีโอกาสในการแก้ไขข้อจำกัดในการประกอบอาชีพของพี่น้องประชาชนอีกด้วย รวมทั้งความเป็นไปได้ของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ที่พรรคเพื่อไทยพูดไปแล้ว ต้องเป็นจริง เลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ ไม่งั้นเรามีนายกฯ คนเดิมแน่นอน หากต้องการเปลี่ยนแปลง เราต้องเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์อย่างแบ่งใจให้ใคร เพื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่จะแก้ไขทุกวิกฤตให้ชีวิตพี่น้องประชาชนหลุดพ้นจากความทุกข์ วันที่ 14 พ.ค. ต้องเข้าคูหากาเพื่อไทย ทั้งคน ทั้งพรรค
ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัยยืนยันถึงความชำนาญในด้านเศรษฐกิจ ยึดโยงกับประชาชน ไม่เอารัฐประหาร รังเกียจเผด็จการ พร้อมย้ำนโยบายสำคัญที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นการสมัครใจเกณฑ์ทหาร ให้ชายไทยอายุ 20 ปี มีอิสรภาพในการประกอบอาชีพ การให้ความสำคัญกับการทำงานที่โปร่งใส ไม่ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชัน เงินทุกบาทต้องตกกับคนไทยทุกคน การยกระดับการปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ จับกุมผู้ผลิตและผู้ค้า พร้อมทำให้กลไกการยึดเงินผู้กระทำผิดรวดเร็วฉับไวขึ้น เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาดูแล และนายกรัฐมนตรีจะต้องนั่งหัวโต๊ะเป็นเจ้าภาพในการจัดการอย่างเด็ดขาด พร้อมสนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังย้ำถึงนโยบายอากาศสะอาด ลด PM2.5 โดยจำกัดซากพืชผลการเกษตรด้วยจุลินทรีย์ เจรจาประเทศเพื่อนบ้านป้องกันไม่ให้เกิดการเผา คืนอากาศสะอาดให้ประชาชน รวมถึงลดเขม่าควันจากรถสันดาบ ด้วยการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ผลักดันค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อสนับสนุนคนมาใช้รถขนส่งสาธารณะที่เข้าถึง เชื่อมต่อรถเมล์ รถไฟ 10 บาท จ่าย 30 บาทถึงจุดหมายปลายทาง พร้อมย้ำนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปที่โดนใจพี่น้องประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนให้แข็งแรง
“หาก ส.ส.กทม. 33 เขต 33 คนคุณภาพของพรรคเพื่อไทย ที่มีความตั้งใจเดินหน้าเข้าสู่สภา เพื่อส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนั่งทำเนียบรัฐบาล ขอพี่น้องเลือกทั้งคน ทั้งพรรค 14 พฤษภาคม นี้ จะเป็นวันเปลี่ยนประวัติศาสตร์การเมืองไทย หวังว่า ส.ส.กทม. ของเพื่อไทยจะได้เข้ามาทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชน ขอให้เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้ง กทม.” นายเศรษฐากล่าว