บุกยิงถล่มชุดคุ้มครองนราธิวาส เจอสวนกลับหนีกระเจิง-ไร้คนเจ็บ

2018-02-15 11:20:39

บุกยิงถล่มชุดคุ้มครองนราธิวาส เจอสวนกลับหนีกระเจิง-ไร้คนเจ็บ

Advertisement

โจรใต้ไม่ต่ำกว่า 5 คน ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่ จนท.ชุดคุ้มครอง ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่ จ.นราธิวาส จนท.ยิงสวนตอบโต้ทันควัน ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนี



เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 5 คน แบ่งออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรก คนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาที่บริเวณด้านหน้าของจุดตรวจชุดคุ้มครอง ต.ตะปอเยาะ ม.2 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายเพชรเกษมขาเข้าเมืองนราธิวาส ใช้อาวุธสงครามชนิด M.16 กราดยิงใส่เข้าไปในตัวอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ชุดอาสาสมัครรักษาดินแดนขณะกำลังเข้าเวรยามอยู่ภายในตัวอาคาร ทำให้เจ้าหน้าที่ อส.ที่ประจำการอยู่ในป้อมยามและบริเวณด้านหน้าของตัวอาคารต้องใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้ใส่คนร้ายจำนวนหลายนัด แต่ด้วยความมืดและฝั่งตรงกันข้ามมีบ้านพักของประชาชนอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกันหลายหลังเจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถยิงได้ถนัดนัก คนร้ายจึงอาศัยความมืดขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปภายหลังก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ออกมาตรวจสอบบนถนน พบปลอกกระสุนปืนสงครามชนิด M.16 ตกอยู่บนถนนจำนวน 11 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานตรวจสอบ


ส่วนคนร้ายชุดที่ 2 จำนวนไม่ต่ำกว่า 3 คน ได้แอบย่องเข้าไปในป่ารกทึบบริเวณด้านหลังของตัวอาคาร ได้ใช้อาวุธสงครามชนิดเดียวกันกราดยิงใส่เข้ามาในตัวอาคาร แต่โชคดีที่หมู่ใหญ่มะตอเฮ เต๊ะตานิง หัวหน้าชุด อยู่ภายในตัวอาคารพอดี จึงวิ่งไปดักที่ตรงหน้าต่างด้านหลังของตัวอาคารพร้อมกับใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสวนออกไปทันทีจำนวนหลายนัด เนื่องจากเป็นการยิงตอบโต้เพื่อสกัดไม่ให้กลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาโจมตีทางด้านหลังตัวอาคาร หลังเสียงปืนสงบเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจึงประสานไปยังตำรวจ สภ.ยี่งอ เพื่อขอกำลังสนับสนุนเพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุทั้ง 2 จุดอีกครั้งพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชุดวิทยาการ จ.นราธิวาส เพื่อเก็บรอยลายนิ้วมือแฝงตามปลอกกระสุน


โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายชุดแรกที่ยิงใส่เข้าไปในตัวอาคารชุดคุ้มครอง ต.ตะปอเยาะ เพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่ออกมาจากตัวอาคาร ส่วนชุดที่ 2 ที่แอบเข้ามาทางด้านหลัง เพื่อต้องการเข้ามายึดอาวุธประจำกายของเจ้าหน้าที่ ซึ่งประจำการณ์อยู่ จำนวน 16 นาย โดยแบ่งกำลังเข้าเวรยามผลัดละ 4 ชั่วโมง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยทั้ง 2 จุด ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด