"จุรินทร์"ลุยสมุทรสงครามอ้อนขอคะแนนให้ "ธนธัส" ชู 2 นโยบายช่วยเหลือชาวประมง
เมื่อวันที่ 19 เม.ย.66 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย น.ส. รัศมี ทองสิริไพรศรี รองโฆษกพรรค และคณะประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 เดินทางถึงจ.สมุทรสงคราม เพื่อช่วยหาเสียงสนับสนุนให้ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม หมายเลข 6 นายธนธัส ขุนนุช โดยบรรยากาศที่ตลาดสดแม่กลอง นายจุรินทร์ และนายธนธัส ผู้สมัครของพรรคอยู่ท่ามกลางพ่อค้าแม่ค้าและพี่น้องประชาชนที่เข้ามาต้อนรับเพื่อมอบพวงมาลัย และร่วมถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีคุณยายแกะลิ้นจี่ให้นายจุรินทร์ ได้รับประทาน ซึ่งนายจุรินทร์ ก็บอกว่า ลิ้นจี่ที่แม่กลองต่างจากลิ้นจี่ทางเหนือคือที่นี่มีคนแกะให้ รสชาติหวานอร่อย โดยคุณยายขอดูหน้านายจุรินทร์ใกล้ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าหล่อเหมือนในทีวี จากนั้นนายจุรินทร์ได้นำคณะเดินไปถึงตลาดร่มหุบ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติและพี่น้องประชาชนที่มาท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าวได้ให้ความสนใจ ทักถามพูดคุย และขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมาก
นายจุรินทร์ กล่าวว่า นายธนธัสเป็นคนรุ่นใหม่ และเป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่มีประสบการณ์ยาวนาน ทั้งจากการเป็นรองนายก อบจ. และเป็นรองนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ทำให้รู้จักพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดีอยู่แล้ว อีกทั้งมีการศึกษาในระดับที่พร้อมทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรและทำหน้าที่ฝ่ายบริหารในอนาคตได้ด้วย ซึ่งจากการลงพื้นที่ จ.สมุทรสงครามด้วยตัวเองก่อนหน้านี้หลายครั้งรวมทั้งครั้งนี้ ก็พบว่าประชาชนส่วนใหญ่บอกว่าจะไม่ตามใครไป และพร้อมสนับสนุนผู้สมัครคนใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีที่จะได้แปลงวิกฤตให้เป็นโอกาสของพรรค และแปลงเป็นโอกาสให้กับพี่น้องชาวสมุทรสงครามที่จะได้มีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่สืบสานอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ และรับใช้พี่น้องชาวสมุทรสงครามต่อไป ผมขอฝากน้องเอส นักการเมืองรุ่นใหม่ ไว้กับพี่น้องชาวสมุทรสงคราม และฝากเพื่อนสมาชิกชาวประชาธิปัตย์ ที่ยังแน่นเหนียวอยู่กับพรรค ขอให้มั่นคงต่อไป และขอให้สนับสนุนพวกเรา จับมือกันเดินหน้าไปด้วยกัน เพื่อพาสมุทรสงครามไปสู่ความสำเร็จในการสร้างความเจริญก้าวหน้า และเป็นจังหวัดตัวอย่างอีกจังหวัดที่ยึดอุดมการณ์เป็นด้านหลักสำหรับการตัดสินใจเลือกผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งครั้งนี้
นายจุรินทร์ กล่าวถึงปัญหาประมงว่าเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวประมงทั้ง 26 จังหวัด และสร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจถึง 4-5 แสนล้าน ด้วยเหตุนี้พรรคประชาธิปัตย์จึงได้เสนอ 2 นโยบาย เพื่อช่วยเหลือชาวประมง 2 กลุ่ม คือ นโยบาประมงท้องถิ่นรับ 100,000 บาท ทุกปี เป็นมาตรการเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มประมงท้องถิ่น โดยการสนับสนุนเงินทุนให้ กลุ่มละ 100,000 บาท ทุกปี สำหรับการพัฒนาศักยภาพของชาวประมงท้องถิ่น ให้สอดคล้องกับความต้องการ และสภาพของแต่ละชุมชน ซึ่งสามารถนำเงินดังกล่าวเป็นทุนสำหรับทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาอาชีพ เพิ่มผลผลิต เพิ่มมูลค่า รวมถึงการเพิ่มทักษะการทำการประมงได้ ในปัจจุบันมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มประมงท้องถิ่นมากกว่า 2,800 กลุ่มกระจายตัวอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่กลุ่มประมงชายฝั่ง ประมงนอกชายฝั่ง ประมงน้ำจืด กลุ่มแปรรูป-เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ดังนั้นด้วยนโยบาย “ประมงท้องถิ่น รับ 100,000 บาท ทุกปี จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ชาวประมงท้องถิ่นที่เป็นกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญของไทยให้เกิดการพัฒนาต่อยอดอาชีพอย่างต่อเนื่องได้
นโยบายปลดล็อกประมงพาณิชย์ ภายใต้ IUU เป็นนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มประมงพาณิชย์ ที่มาได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขของ IUU ทำให้ประมงพาณิชย์ต้องเผชิญปัญหาอย่างรุนแรง แต่ด้วยนโยบาย “ปลดล็อค ประมงพาณิย์ ภายใต้ IUU” จะเป็นการพลิกฟื้นธุรกิจประมงไทยให้กลับมาสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาลอีกครั้ง ภายใต้การปฏิบัติตามเงื่อนไขที่สากลยอมรับ ดังนั้นหากประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จะได้นำ 2 นโยบายดังกล่าวมาเร่งดำเนินการเพื่อให้พี่น้องชาวประมงพาณิชย์ทั้ง 26 จังหวัด และประมงท้องถิ่นทั่วประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้