ผบช.ปส.เผยเครือข่าย “โน้ต ดินแดง”มีทรัพย์สินนับพันล้าน ขณะนี้ยึดแล้วกว่า 200 ล้าน เผย “ปาหุณ” ยอมรับถือครองทรัพย์สินแทนน้องชาย เชื่อนำไปฟอกเป็นทรัพย์สินต่างๆในหมู่ดารานักแสดง วงการแข่งรถบิ๊กไบค์ เผยคอนโดย่านพระราม9 “เบนซ์ เรซซิ่ง” เคยหลบไปกบดานก่อนถูกจับกุม
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) เปิดเผยว่า การจับกุมเครือข่ายและยึดทรัพย์สินของ นายวันเฉลิม กมลเลิศ หรือ “โน้ต ดินแดง” ขณะนี้สามารถอายัดทรัพย์สินได้มูลค่ากว่า 200ล้านบาท จากทรัพย์สินที่เชื่อว่ามีนับพันล้านบาท โน้ต ดินแดงเปรียบเป็นรังผึ้งหนึ่งรังของนายไซซะนะ แก้วพิมพา หลังนายไซซะนะ และนายณัฐพงศ์ นาคคำ หรือ “บอย” ถูกจับกุม โน้ต ดินแดง จึงเข้ามาดูแลพื้นที่ทั้งหมด และพบว่ายังมีธุรกิจโรงแรมขายรถ ที่ถือหุ้นกับเพื่อนสัญชาติลาว ซึ่งเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการฟอกเงิน
พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวอีกว่า ส่วนการจับกุมนายปาหุณ กมลเลิศ หรือ “ซ่า” ดารา นักร้อง ซึ่งเป็นพี่ชายของโน้ต ดินแดง ให้การเป็นประโยชน์ ยอมรับว่า เป็นผู้ถือครองทรัพย์สินแทน โน้ต ดินแดงจริง ซึ่งข้อหาที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับนายปาหุณคือสมคบกันค้ายาเสพติด และเชื่อนายปาหุณ มีความเชื่อมโยงกับการกระจายยาเสพติดรวมถึงนำทรัพย์สินจากการค้ายามาฟอกเป็นทรัพย์สินต่างๆในหมู่ดารานักแสดง และวงการแข่งรถบิ๊กไบค์ ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า คอนโดมิเนียมย่านพระราม9ที่มีการเข้ายึดรถ ของโน้ต ดินแดง เมื่อวันที่ 12 ก.พ.นั้น เป็นคอนโดมิเนียมเดียวกับที่นายอัครกิตต์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ “เบนซ์ เรซซิ่ง” หลบไปกบดาน ขณะเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุมเมื่อปีก่อน
ผบช.ปส. กล่าวด้วยว่า จากข้อมูลดังกล่าว ขบวนการค้ายาเสพติดมักใช้อาคาร คอนโดมิเนียม เป็นแหล่งพักยา เนื่องจากการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างยาก โดยหลังจากนี้จะทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด รวมถึงสืบหาทรัพย์สินจากเครือข่ายการค้ายาเสพติด เพื่อตัดเส้นทางการเงินของคนร้าย อย่างไรก็ตามยังพบว่า ยาเสพติดที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน มีการหลุดลอดออกจากประเทศไทยไปประเทศที่สามแล้ว รวมถึงพบข้อมูลการเข้ามาของยาไฟว์ มีฤทธิ์คล้ายยากล่อมประสาท จากประเทศปากีสถานด้วย