ดีเอสไอแถลงผลงานทำภารกิจสำคัญ 39 คดี เรียกคืนทรัพย์สินให้รัฐกว่า 9,500 ล้าน
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.66 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงผลการดำเนินงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แล ผอ.กองคดี ผอ.ศูนย์ ที่เกี่ยวข้อง โดยสรุปมีคดีพิเศษที่สอบสวนเสร็จสิ้นและภารกิจสำคัญที่ได้ดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. - 5 เม.ย.6 จำนวน 39 คดี โดยจำแนกตามประเภทคดีพิเศษเป็น 4 ด้าน ดังนี้
1. คดีพิเศษด้านเศรษฐกิจ 10 คดี มีคดีที่สำคัญ คือ คดีหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร กรณียื่นใบขนสินค้าสำแดงถิ่นกำเนิดเป็นเท็จ นำเข้ารถเมล์ NGV ขสมก. 489 คัน มูลค่าภาษีที่เรียกคืนให้กับรัฐ 2,180,000,000 บาท คดีแชร์ลูกโซ่รวมมูลค่าความเสียหาย 2,668,000,000 บาท คดีฟอกเงิน ยาเสพติด และเล่นการพนันออนไลน์ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 3,375,000,000 บาท คดีความผิดตามกฎหมายควบคุมและแลกเปลี่ยนเงิน มูลค่าความเสียหาย 826,000,000 บาท 2. คดีพิเศษด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพย์สินทางปัญญา จำนวน 3 คดี มีคดีที่สำคัญ ดังนี้ คดีปลอม เลียนเครื่องหมายการค้ารวมมูลค่าของกลาง 24,000,000 บาท คดีสินค้าไม่ผ่าน มอก. และ กสทช. กรณีกลุ่มบุคคลชาวต่างชาติร่วมกับคนไทยเป็นตัวแทนร่วมกันลักลอบนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ประเภทโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง เปิดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ซื้อขายสินค้าออนไลน์ และสินค้าเหล่านั้นไม่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) และไม่ผ่านการตรวจสอบจาก กสทช. จำนวนสินค้า 17,900 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 23,000,000 บาท 3. คดีพิเศษด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม จำนวน 19 คดี มีคดีที่สำคัญ ดังนี้ คดีออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบและบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ที่ดินของรัฐ จำนวนเนื้อที่ 97 ไร่ 3 งาน 10 ตารางวา มูลค่าความเสียหาย 342,212,500 ล้านบาท 4. คดีพิเศษระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ จำนวน 7 คดี มีคดีที่สำคัญ ดังนี้ คดีเจ้าพนักงานทุจริต ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมคดีพิเศษในห้วงระหว่างวันที่ 18 ม.ค.- 5 เม.ย.66 สามารถปกป้อง เรียกคืนทรัพย์สินให้แก่รัฐ เอกชน และประชาชน รวมมูลค่า 9,541,963,056.92 บาท