ผบช.ภ.8 เผยชนวนเหตุดวลปืนดับ 4 ศพ ด.ต.ลูกเขยขัดแย้งพ่อตา (มีคลิป)

2023-04-09 21:47:04

ผบช.ภ.8  เผยชนวนเหตุดวลปืนดับ 4 ศพ ด.ต.ลูกเขยขัดแย้งพ่อตา (มีคลิป)

Advertisement

ผบช.ภ.8  เผยชนวนเหตุคนร้ายดวลปืนกับเจ้าของบ้านดับ 4 ศพ  สาเหตุจากความขัดแย้งพ่อตากับลูกเขย ด.ต.

จากกรณี เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 8 เม.ย.66 พ.ต.ต.จเร ขำแก้ว สารวัตร(สอบสวน)สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ที่บ้านเลขที่ 91 ม.8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ประกอบด้วย นายธรรมรงค์ นิลนิยม เจ้าของบ้าน เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน (ก่อนหน้านี้เคยถูกลอบยิงได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.65) รายที่สอง นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ เป็นภรรยา นายธรรมรงค์ เสียชีวิตอยู่ข้างโอ่งน้ำหน้าบ้าน รายที่สามคือ นายพรศักดิ์ เพชรชู อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน เสียชีวิตบนบ้าน และรายที่สี่ นายธรรมรัตน์  หรือ วัฒน์ นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณชั้นล่าง


คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 9 เม.ย.66 ที่ สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.ศุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค8 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.คีรีรัฐนิคม และเดินทางเข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ

พล.ต.ท.ศุรพงษ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีมากกว่า 3 คน และทางเจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วรายแรกคือ ด.ต.อรรถพร วิเชียร ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปรามยาเสพติด สภ.คีรีรัฐนิคม รายที่สองคือนายธรรมรัตน์ หรือวัฒน์ วิเชียร เป็นพี่ชายของ ด.ต.อรรถพร ซึ่งถูกยิงตายในที่เกิดเหตุ และรายที่สามคือนายมานพ (ขอสงวนนามสกุล) และยังมีผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีอยู่อีกซึ่งยังอยู่ในช่วงสืบสวนว่ามีกี่ราย สำหรับฉนวนเหตุให้การยิงกัน สาเหตุเนื่องมาจาก ด.ต.อรรถพร ซึ่งได้คบหากับ น.ส.พนิดา หรือ ตั๊ก ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเดียวของนายธรรมรงค์ ผู้ตาย และทั้งคู่ได้ไปจดทะเบียนอยู่กินด้วยกัน แต่ด้วย ด.ต.อรรถพร เป็นตำรวจและมีฐานะที่ดอยกว่า ทางนายธรรมรงค์ จึงไม่พอใจและบอกให้ลูกสาวหย่าร้างกับ ด.ต.อรรถพร ซึ่งทาง ด.ต.อรรถพร ก็พยายามที่จะเข้าไปคุยกับทางนายธรรมรงค์ ผู้เป็นพ่อตาหลายครั้ง ซึ่งจริงแล้วทั้งคู่ก็รู้จักกันมาก่อนนานกว่าสิบปี แต่ด้วยความที่ว่าทั้งคู่น่าจะมีความอารมณ์ร้อน ทำให้เกิดเหตุการที่บานปลายขึ้น ทั้งนี้แนวทางการสอบสวนก็ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆทิ้ง


จากการสอบสวนทราบว่าในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 8 เม.ย. ด.ต.อรรถพร ได้เดินทางมาที่บ้านเกิดเหตุพร้อมกับนายธรรมรัตน์ หรือวัฒน์ ผู้เป็นพี่ชาย และนายมานพ และยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก1-2 ราย เพื่อที่จะมาเจรจากับนายธรรมรงค์ เป็นจังหวะเดียวกับที่นายพรศักดิ์ เพชรชู อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน กำลังมาคุยงานกันพอดีจึงอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ส่วนนางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ ภรรยาของนายธรรมรงค์ นั่งเล่นอยู่ที่ศาลาด้านหน้าบ้าน ซึ่งระหว่างการพูดคุยกัน อาจจะตกลงกันไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายจึงได้ใช้อาวุธปีนยิงดวลใส่กันจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รวม 4 ศพ ดังกล่าว หลังจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าอาวุธปืนที่ทั้งคู่ใช้ก่อเหตุ มีทั้งอาวุธปืนสงครามM16 ปืนลูกซอง และปืนขนาด 9 มม. ในส่วนของอาวุธปืนสงครามM16ที่ใช่ก่อเหตุนั้นยังอยู่ในช่วงตรวจสอบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุนำมาจากไหน ซึ่งทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้กำชับให้เร่งรัดคดี เนื่องจากเหตุดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตถึง 4 ศพ และจะเดินทางลงมาติดตามคดีด้วยตนเองในวันที่ 11 เม.ย. ในส่วนของกลุ่มผู้ก่อเหตุตอนนี้ยังหลบหนีอยู่ และยังไม่ได้รับการติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป