"มัลลิกา"เป็นตัวแทน ปชป. ประชันวิสัยทัศน์ ลั่นพรรคให้ความสำคัญคนรุ่นใหม่ ชูอินเทอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด เรียนฟรีถึงปริญญาตรี หนุนสร้างธุรกิจ สร้างอาชีพ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้กับประเทศ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 7 เม.ย.66 ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ดร.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นตัวแทนพรรคไปแสดงวิสัยทัศน์ในศึกเลือกตั้งร่วมกับตัวแทนจากอีก 5 พรรคการเมือง
ดร.มัลลิกา กล่าวว่า เวทีนี้จัดโดยองค์การนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และประสานงานอย่างมืออาชีพ พรรคให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่โดยนโยบายสำคัญที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องแรก คือ อินเทอร์เน็ตฟรี 1,000,000 จุด ทุกหมู่บ้านทุกห้องเรียน เป็นเรื่องที่ทำได้ทันทีโดยมี 600,000 จุดอยู่นอกห้องเรียนจะใช้อินเทอร์เน็ตฟรีในชุมชนและหมู่บ้านทั่วประเทศรวม 8 หมื่นแห่ง ส่วนอีก 400,000 จุดอินเทอรเน็ตฟรีอยู่ในห้องเรียนชั้นประถมและมัธยมครอบคลุมทั่วประเทศ 350,000 ห้องเรียน
ดร.มัลลิกา กล่าวต่อว่า เรื่องที่สองคือนโยบายเรียนฟรีถึงปริญญาตรีสาขาที่ตลาดต้องการสามารถบรรจุคนเข้าทำงานได้ทันทีมากกว่า 150,000 ตำแหน่งโดยเน้นตลาดแรงงาน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ สำรวจความต้องการไว้ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยี อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น และเรื่องที่สาม นโยบาย SME มีแต้มต่อด้วยกองทุน 300,000 ล้านบาทเน้นสร้างสตาร์ทอัพ นักธุรกิจรุ่นใหม่และครอบคลุมธุรกิจ SME เดิม ที่มีอยู่ 3,200,000 รายจะก่อให้เกิดการจ้างงานร่วม 13,000,000 คนและจะสามารถสร้างเงินให้กับประเทศด้วยการส่งออก ตลาดต่างประเทศที่มีเป้าหมายได้โดยเน้นการเข้าถึงแหล่งเงินแหล่งทุนโดยลดขั้นตอนและไม่ใช้หลักทรัพย์เกินจำเป็นเพียงแค่ใช้ออร์เดอร์ใบสั่งสินค้า ดังนั้นกองทัพเศรษฐกิจของคนรุ่นใหม่จะเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้กับประเทศได้
"นอกจากนั้นที่ถูกใจคนรุ่นใหม่ คือ แนวทางการบริหารจัดการเศรษฐกิจ ตาม นโยบายสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ เน้นวิธีปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่มีแนวทางใช้นวัตกรรมตลาดทุน ระดมทุนทุกรูปแบบเพื่อให้ประเทศสามารถแข่งขันและก้าวหน้าได้ เน้นระบบเศรษฐกิจฐานรากดูแลครอบครัวของคนรุ่นใหม่ซึ่งครอบครัวมีทั้งอาชีพเกษตรกร อาชีพอิสระ ชาวนา ชาวสวน ประมงและอื่นๆ และใช้ระบบเศรษฐกิจมหภาคเพื่อดึงเงินลงทุนอัดฉีดลงไปในระบบโดยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้า เศรษฐกิจ การเงิน ของภูมิภาคและเอเชียและเน้นระเบียงเศรษฐกิจทุกภูมิภาคของประเทศไม่ใช่เพียงแค่ตะวันออกเท่านั้น ส่วนระบบเศรษฐกิจทันสมัยก็จะเน้น BCG (Bio Circular and Green Economy) บริหารตลาดเงินกับตลาดทุนอย่างทันสมัยโดยตลาดเงินจะปรับให้นโยบายแบงค์หรือธนาคารควรจะมีกำไรเท่าที่ควรเท่านั้นและลดช่องว่างของดอกเบี้ยแปลว่าให้ดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง แล้วสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการเงินและสามารถระดมเงินจากตลาดโลกได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นในส่วนตลาดทุนก็เน้นการระดมทุนโดยการออกกองทุนต่างๆเป็น Specific Funds หรือกองทุนเฉพาะ เช่น กองทุนลดภาระหนี้สินครู กองทุนสร้างโอกาส กองทุนสร้างอาชีพ เป็นต้น ซึ่งทุกอย่างจะมีที่มาจากการบริหารจัดการแบบระบบเศรษฐกิจทันสมัย เมื่อ เน้นการบริหารระบบเศรษฐกิจสามภาคส่วนอย่างลงตัวคนรุ่นใหม่ก็จะอยู่อย่างมีสมรรถนะ ไลฟ์สไตล์ดี มีเงิน จับจ่ายใช้สอย ครอบครัวไม่มีปัญหาเพราะการบริหารระบบเศรษฐกิจแบบนี้ดูแลครอบคลุมให้แล้ว คนรุ่นใหม่สร้างเนื้อสร้างตัวสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุขและเป็นอิสระทางการเงิน " ดร.มัลลิกา กล่าว