เตือนภัยกลุ่มเสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้ารับวัคซีนป้องกัน

2018-02-13 13:30:01

เตือนภัยกลุ่มเสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้ารับวัคซีนป้องกัน

Advertisement

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เตือนภัยกลุ่มเสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้า สัตวแพทย์ บุคลากรทำงานในสถานบำบัดโรคสัตว์ ผู้ทำงานในห้องปฏิบัติการ บุคคลทั่วไปที่เดินทางเข้าไปในถิ่นที่มีโรคพิษสุนัขบ้าชุกชุม ควรได้รับวัคซีนป้องกัน ร่วมกับเซรุ่มแก้พิษสุนัขบ้า



เมื่อวันที่ 13 ก.พ. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โรคพิษสุนัขบ้าเกิดจากการสัมผัสน้ำลายหรือสิ่งคัดหลังจากสัตว์กัดหรือข่วนเป็นรอยช้ำ เป็นแผลถลอก สัตว์เลียบาดแผลเปิดที่มีอยู่เดิม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีการสัมผัสสุนัขหรือสัตว์ที่ไม่ทราบประวัติ ได้แก่ สัตวแพทย์ บุคลากรที่ทำงานในสถานบำบัดโรคสัตว์ ผู้ทำงานในห้องปฏิบัติการ บุคคลทั่วไปที่ต้องเดินทางเข้าไปในถิ่นที่มีโรคพิษสุนัขบ้าชุกชุม รวมถึงผู้ใจบุญที่คอยดูแลสัตว์จรจัด ซึ่งโรคพิษสุนัขบ้าสามารถป้องกันได้โดยการรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามโปรแกรมหลังสัมผัสโรค ร่วมกับ เซรุ่มแก้พิษสุนัขบ้า สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยง การได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามโปรแกรมก่อนการสัมผัสโรค เป็นเรื่องที่มีความจำเป็น และควรได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นซ้ำเมื่อสัมผัสโรคหรือสงสัยว่าสัมผัสโรค ซึ่ง การรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายจากโรคพิษสุนัขบ้า และเข้ามารับวัคซีนป้องกันโรคยังเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน


นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีอัตราการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ มีแนวโน้มสูงขึ้น จากปี 2558-2560 มีรายงานโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ 330, 614 และ 843 ตัว ตามลำดับ เป็นสุนัข 89.11% โคกระบือ 6.61% แมว 3.57% และสัตว์อื่นๆ0.71% และอัตราการเสียชีวิตของประชาชนในประเทศไทยจากโรคพิษสุนัขบ้า ปี 2558-2560 คือ 5, 14 และ 8 ราย ตามลำดับ ล่าสุดเมื่อเดือนม.ค. 2561 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตรายแรกแล้วเป็นครู รร.บ้านลำชี ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่เป็นคนรักสัตว์มาก โดยเฉพาะสุนัข เลี้ยงไว้ในบ้านถึง 5 ตัว และยังชอบนำอาหาร ไปเลี้ยงสุนัขจรจัด บริเวณรอบชุมชนโพธิ์ร้าง เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์อยู่เป็นประจำ ดังนั้นการได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจึงมีความจำเป็นทั้งกลุ่มเสี่ยงและสัตว์เลี้ยงเพื่อป้องกันตัวคุณเองและสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก