"สมศักดิ์"โชว์หนังสือลาออกจาก รมว.ยุติธรรม เปิดใจซบ พท. ช่วยแลนด์สไลด์เป็นรัฐบาลสำเร็จตามเป้าหมาย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 มี.ค. 66 ที่ร้านกินเส้น สนามบินน้ำ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงถึงเส้นทางการเมือง ที่จะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า แนวทางตัดสินใจ 3 ประเด็น คือ ฟ้า ดิน อากาศ โดยในส่วนของอากาศ คือข้อมูลพรรคการเมืองต่างๆ และต้องให้ความสำคัญกับทีมงาน แนวนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเสถียรภาพรัฐบาลมีความสำคัญ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ส.ส. 118 คน แต่ยังไม่สามารถทำเศรษฐกิจให้ประชาชนพอใจได้ เพราะเป็นรัฐบาลผสม มีการต่อรองกระทรวงและโควตาต่าง ๆโดยพรรคพปชร.ไม่ได้ดูกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมด ทำให้ต้องคิดว่าการจะทำให้สิ่งต่างๆให้สัมฤทธิ์ผลช่วยประชาชนได้ คือดูพรรคที่จะแลนสไลด์ จะมีส่วนทำให้แนวนโยบายรัฐบาลใหม่ประสบผลสำเร็จ เป็นที่พึ่งของประชาชนใยการแก้ปัญหาความยากจน จึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกเพื่อไทย โดยตนได้ทำให้หนังสือลาออกจากรัฐมนตรียุติธรรม และส่งเอกสารลงรับไปเรียบร้อยแล้ว โดยจะไม่ขอรักษาการรัฐมนตรี เพื่อความสบายใจต่อฝ่ายต่างๆและทำหนังสือลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองลงรับเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เกิดความชัดเจน และได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยเอกสารจะเรียบร้อยในวันที่ 20 มี.ค.นี้
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ติดใจอะไร และขอให้โชคดี โดยนายกฯพูดกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ฝากมาถึงตนด้วย และต้องขอบคุณพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในการทำงานที่ผ่านมา ตนอยู่กับพลังประชารัฐก็ทำงานเต็มที่เมื่อไปอยู่กับเพื่อไทยก็จะทำเต็มที่ แม้จะยังไม่ได้เข้าไปที่พรรคเพื่อไทย แต่เมื่อมีข่าวออกมา และเห็นแนวทางทำงานของตน ทำให้คนในพรรคเพื่อไทย โทรมาแสดงความยินดีจำสวนมาก ส่วนตนจะไปดูพื้นที่ไหนในพรรคเพื่อไทย สุดแล้วแต่ผู้บริหารพรรคจะเห็นเหมาะสม ตนไม่เลือก ไปได้ทุกที่และไม่ได้คาดหวัง จะไปนั่งกระทรวงใดเพราะเวลาตั้งรัฐบาลแล้วหวังไว้ที่หนึ่ง แต่ไปได้กระทรวงอื่น จึงไม่ได้คิดอะไร ไม่คาดหวัง แล้วแต่ประชาชนจะสนับสนุน ทั้งนี้หากไปอยู่เพื่อไทยแล้วได้อยู่ในลำดับไม่เกิน 50 ก็น่าจะได้เป็นส.ส.
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านั้น ได้กราบลานายวิษณุ เครืองาม และพล.อ.ประวิตร ทั้งคู่ได้ให้ศีลให้พร ยืนยันว่าไม่มีความแตกแยก แต่การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ถือเป็นอุปสรรค และหากทีมงานที่ไม่สามัคคีจะเป็นอุปสรรค เพราะคนหนึ่งไปซ้าย คนหนึ่งไปขวา ส่วนพรรคเพื่อไทย นั้นทำงานเป็นระบบ และเป็นพรรคพวกกันมาก่อน จึงเข้าใจและพูดคุยกันได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการทำงานใน พปชร.ทำให้ทำงานลำบากหรือไม่ กล่าวว่า ไม่ลำบาก พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค เป็นปกติ แต่บางคนเกิดความรู้สึกติดขัดบ้างเล็กน้อย เช่น ตนเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค แต่เมื่อไม่เป็นหนึ่งเดียวกันทำงานยาก
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะแลนสไลด์ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ดูจากโพลเมื่อ 2 เดือนที่แล้วได้ 220เสียง แต่ถ้าเราไปช่วยอีกทางคิดว่าจะขยับได้ เมื่อถามย้ำว่าเป้าหมายที่ไปพรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อว่าจะเป็นรัฐบาลแน่นอน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากเข้าไปช่วยหาเสียง มีนโยบายใหม่ จึงมั่นใจว่าจะได้เสียงมากขึ้นตามเป้าที่ผู้บริหารพรรคเพื่อไทยวางไว้ ส่วนตนจะช่วยให้ดีที่สุด เพราะการเป็นรัฐบาลเป็นความใฝ่ฝันของทุกพรรค แต่จะเป็นได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่มีมากน้อยของแต่ละพรรคจะดำเนินการ หากประชาชนช่วยเลือกเข้ามามากจะได้แลนสไลด์ ส่วนจะได้ 310 เสียงหรือไม่ ตนไม่กล้าคิด เพราะไม่ได้ถือโพล หรือลงไปดูตรงนี้
เมื่อถามว่า หลังเลือกตั้ง พปชร.จะจับมือกับเพื่อไทย หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้บริหาร และผู้ใหญ่ของพรรคพูดคุยกัน โดยการพบกับพล.อ.ประวิตร ท่านไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้ฟัง แสดงว่าไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จึงเชื่อว่ายังไม่ได้พูดคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ว่าคนเสื้อแดง จะไม่มั่นใจพรรคเพื่อไทย หากย้ายไปอยู่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คิดได้ เพราะเราย้ายไปแต่จากการตอบรับพรรคเพื่อไทย ที่มีคนยินดีอย่างมากเป็นการตอบรับ และคิดว่ากฎ กติกาที่มี เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย จะทำให้เกิดความสมดุลและเมื่อไปเพื่อไทยแล้ว จะไม่มีกลุ่มสามมิตรอีกแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดของเพื่อไทย อยู่ตรงข้ามกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถร่วมงานได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถึงเวลาการเลือกตั้งจบแล้วการตั้งรัฐบาลจะดูที่ตัวเลขของส.ส.โกรธกันแทบตายแต่เหลืออยู่สองพรรค ก็ต้องหาทางลดหย่อน และปรับแนวทางในการร่วมรัฐบาล การแก้ปัญหาก็ทำได้ไม่เต็มที่หากเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ดังนั้นจะเป็นเรื่องดีหากประชาชนช่วยกันทำแลนสไลด์ร่วมกัน แต่ถ้าแลนสไลด์แล้วทำไม่ได้ ก็เลิกกันไป