"สุรเชษฐ์" ไม่เซอร์ไพรส์ "บิ๊กป้อม-เสี่ยหนู"กินข้าว ชี้เป็นพวกเดียวกัน ชี้ "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" แยกกันเดินพยายามสร้างความแตกต่าง
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 66 นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ในฐานะรองหัวหน้าพรรค เข้าพบและร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เมื่อวันที่ 15 มี.ค.เป็นการส่งสัญญาณจับขั้วตั้งรัฐบาลหรือไม่ ว่า ทั้งพล.อ.ประวิตร และ ภท. ถือเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนตัวจึงไม่รู้สึกเซอร์ไพรส์ ส่วนเรื่องการอาสาพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง ตนคิดว่าพล.อ.ประวิตร พยายามหามุมใหม่ที่สร้างความแตกต่างจากฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แต่ในท้ายที่สุดทั้งสองคนก็คือร่างเดียวกัน การจำแลงแยกร่างในตอนนี้ สุดท้ายก็รวมกันได้ ตอนแยกกันเดิน ทั้งสองต้องพยายามสร้างความแตกต่างขึ้นมา สิ่งที่พล.อ.ประวิตร พูดไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ตอนที่อยู่ในอำนาจทำไมไม่ทำ มาพูดดีเอาตอนจะเลือกตั้ง แถมนโยบายต่างๆ ของฝั่งรัฐบาล ทั้งของ พปชร. พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทย ผ่านมากี่ปีทำไมไม่ทำ
เมื่อถามว่า การร่วมรับประทานอาหารครั้งนี้ เป็นการแสดงความไม่พอใจต่อกรณีที่นายกฯ ตัดสินใจถอนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มออกจากที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 14 มี.ค..หรือไม่ นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า อาจจะไม่ใช่การส่งสัญญาณไม่พอใจ ความจริงวาระรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้าสู่การประชุม ครม. ได้เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนให้เข้า เพียงแต่ว่ากระแสใน ครม. มีความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงขอชื่นชมรัฐมนตรีที่ไม่เห็นด้วย แต่จะให้เครดิต พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถอนเรื่องออก ก็คงไม่ใช่ เพราะเป็นคนเอาเข้า เมื่อคุมเสียง ครม. ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องถอนเรื่องออก
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะมีคนมีชื่อเสียง และบิ๊กเนมเข้าพรรคเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า มี ขณะนี้กำลังทยอยเปิดตัว รวมถึงการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ และเปิดตัวแคมเปญไปเรื่อยๆ จนถึงวันเลือกตั้ง เรากำลังวางแผนอยู่ว่าจะโยนไพ่ใบไหนเข้าไป คือเรามีไพ่อยู่แต่ยังไม่เปิดเท่านั้นเอง ส่วนใหญ่เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตามพรรคก้าวไกลพยายามทำในนามของพรรค และพยายามไม่ยึดโยงกับตัวบุคคล เพื่อทำให้เป็นพรรคมวลชนอย่างแท้จริง