ซานฟรานซิสโก, 15 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (14 มี.ค.) เมตา (Meta) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และวอตส์แอปป์ เปิดเผยแผนการเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ รอบที่ 2 เพิ่มอีก 10,000 คน
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา กล่าวว่าการเลิกจ้างครั้งนี้จะเป็นเรื่องยากและไม่มีทางเลือกอื่น ทว่าจะช่วยให้บริษัทฯ มีความคล่องตัวและเป็นเทคนิคมากขึ้น ทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพธุรกิจเพื่อปูทางแก่การดำเนินการตามวิสัยทัศน์ระยะยาว
ซักเคอร์เบิร์กระบุว่าแผนการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อทีมจัดหาพนักงาน ทีมเทคโนโลยี ทีมธุรกิจ และทีมระหว่างประเทศ และอาจใช้เวลาจนถึงสิ้นปีจึงจะเสร็จสิ้น
เมตา ซึ่งมีฐานที่ตั้งในเมืองเมนโล ปาร์ก ได้เลิกจ้างพนักงานราว 11,000 คน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 และปัจจุบันทำสถิติเลิกจ้างพนักงานรวม 21,000 คน ซึ่งมากที่สุดหากเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ และแซงหน้าสถิติการเลิกจ้างของแอมะซอน (Amazon) ที่ 18,000 คน
ทั้งนี้ ซักเคอร์เบิร์กกล่าวในรายงานรายได้ประจำเดือนกุมภาพันธ์ของเมตาว่ากลยุทธ์หลักสำหรับการบริหารจัดการของบริษัทฯ ในปี 2023 จะเป็น “ปีแห่งประสิทธิภาพ” (Year of Efficiency)
จำนวนพนักงานของเมตาเมื่อนับถึงสิ้นปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปีก่อนหน้า และเพิ่มเกือบสองเท่าจากตัวเลขเดิมในช่วงก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในปี 2019 โดยการเลิกจ้างพนักงานทั้งสองรอบนี้จะทำให้จำนวนพนักงานในบริษัทฯ เหลือราว 65,000 คน
(แฟ้มภาพซินหัว : ภาพมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊ก ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฝ่ายการพาณิชย์ วิทยาศาสตร์ และการขนส่งของวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่อาคารแคปิตอล ฮิลล์ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ วันที่ 28 ต.ค. 2020)