"ทนายตั้ม"พร้อม "หมวดจรูญ"นำ 2 พยานใกล้ชิด"ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น"มาให้การพนักงานสอบสวนกองปราบคดีหวย 30 ล้าน พร้อมมอบหลักฐานแชทไลน์ให้ด้วย คาด 2 สัปดาห์ทุกอย่างชัดเจน ด้าน "หมวดจรูญ"สบายใจมากขึ้น เผยหากถูกเลิกอายัดบัญชีจะเอาเงินไปทำบุญให้คนคิดไม่ดี
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตตำรวจ คู่กรณีในคดีสลากกินแบ่งรัฐบาลมูลค่า 30 ล้านบาท พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อ เยาวชนและสังคม ได้เข้ายื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้กับผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) โดยทนายตั้ม กล่าวว่า ได้วันนี้นำตัวพยานปากสำคัญ 2 คน เป็นคนใกล้ชิดนางรัตนาภรณ์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และนายปรีชา ใคร่ครวญ ข้าราชการครู มาให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำ รวมทั้งนำหลักฐานแชทไลน์ ที่สามารถบอกได้ว่า นางรัตนภรณ์ ไม่ได้ขายลอตเตอรี่ดังกล่าวให้ครูปรีชา โดยข้อความในการแชทไลน์วันที่ 6 พ.ย. 2560 เจ้บ้าบิ่นระบุว่า ตนเองยังไม่ทราบว่าขายลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ให้กับบุคคลใด แต่กลับไปให้การกับตำรวจ ว่าขายให้ครูปรีชา
นายษิทรา ยังกล่าวอีกว่า คดีนี้พบพิรุธเยอะมากซึ่งเชื่อว่าตำรวจกองปราบปรามมีความสามารถที่จะจับพิรุธพยาน 40 ปากได้โดยนำพยานหลักฐานซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์มาประกอบ โดยข้อมูลที่มีอยู่ขณะนี้ส่วนตัวเชื่อว่าทำเป็นขบวนการ แต่ยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์กับบุคคลใดจะต้องรอให้ตำรวจตำรวจสรุปสำนวนให้เสร็จสิ้นก่อน ส่วนคลิปเสียงที่ระบุว่าเป็นเสียงของครูปรีชากับแม่ค้าลอตเตอรี่ ตนเองเชื่อว่าคลิปเสียงนี้เป็นหลักฐานสำคัญสามารถใช้สู้คดีได้แน่นอน เนื่องจากได้มาโดยชอบ
ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันวันนี้ ผบก.ป.ได้รับสำนวนมาจากตํารวจภูธรภาค 7 เพื่อมาดำเนินการต่อแล้ว ซึ่งรายละเอียดในสำนวนไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่ก่อนหน้านี้ตำรวจภูธรภาค 7 เลือกที่จะเชื่อพยานบุคคลมากกว่า อย่างไรก็ตาม ผบก.ป.คาดว่า 2 สัปดาห์ทุกอย่างน่าจะชัดเจน
ด้าน ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า วันนี้สบายใจมากขึ้น ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ เมื่อถามว่า หากผลสรุปว่าหวย30ล้านเป็นของตัวเองจะเอาเงินที่ถูกอายัดไปทำอะไร ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า จะนำเงินไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คนคิดไม่ดี