"อนุทิน"ช่วย "ภาดาท์"หาเสียง ปชช.ปลื้มนโยบายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ลดภาระ รักษาสิ่งแวดล้อม
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 1 มี.ค. 66 ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก วัดไผ่ตัน เขตพญาไท กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้ง กทม. พรรคภูมิใจไทย และทีมผู้บริหารพรรคได้ลงพื้นที่ช่วย น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ของพรรคหาเสียง และนำเสนอนโยบาย ระหว่างการลงพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากประชาชน ที่ให้ความสนใจแล้ว ยังมีผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เข้ามาสอบถามถึงนโยบายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยขอรายละเอียด เพิ่มเติมเนื่องจาก เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และชอบนโยบายนี้ เพราะช่วยประหยัดค่าพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม นายอนุทิน อธิบายว่า นโยบายดังกล่าว ให้สิทธิ์ประชาชน ผ่อนซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 60 เดือน เดือนละ 100 บาท มาคู่กับนโยบาย ติดตั้งหลังคาโซลารูฟ ที่รัฐจะฝากโรงผลิตไฟฟ้าไว้ที่หลังคาบ้านพี่น้องประชาชน นโยบายนี้ จะมีประโยชน์มาก ค่าผ่อนโซลาร์รูฟ เพียง 450 บาท ก็ได้ใช้ไฟจากตรงนั้น นโยบายดังกล่าวจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย
นายอนุทิน ได้ปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า นำเสนอนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ประกอบไปด้วย นโยบายตั๋ว One Day Pass การกำหนดค่าโดยสารสาธารณะ รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวัน ไม่เกิน 50 บาท ส่วนรถไฟฟ้า เริ่ม 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท, นโยบายพักหนี้ 3 ปีหยุด ต้นปลอดดอกเบี้ยคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท การตั้งศูนย์ฟอกไตฟรี โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์ฟอกไต 1 เขต 1 ศูนย์ ให้บริการประชาชนลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและญาติ, ศูนย์ฉายรังสีมะเร็งฟรี เป็นการจัดตั้งศูนย์ ฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งฟรี 1 จังหวัด 1 ศูนย์ ให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น และการเพิ่มค่าตอบแทน อสส.กรุงเทพฯ สนับสนุนคนอาสา เดือนละ 2,000 บาท เจ็บป่วยมีประกันดูแล การหารายได้เพิ่มได้ 3 กะ เปิดพื้นที่ใหม่ๆ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ไปจนถึงการให้กรุงเทพฯ เป็นเขตสุขภาพที่ 13 เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการรักษาพยาบาล
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า และล่าสุด คือ สำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ จะได้รับสิทธิเป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันที โดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต โดยกองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป มีวัตถุประสงค์สำคัญ 2 ประการ คือ 1.ในวันที่อยู่ ผู้สูงวัย ไม่เป็นภาระของลูกหลาน มีสิทธิกู้เงินดูแลตัวเอง และประกอบอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้ ในวงเงิน 20,000 บาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แต่จะใช้กรมธรรม์ประกันชีวิต ที่รัฐบาลจัดทำให้ค้ำประกันตัวเอง 2.ในวันที่จากไป ผู้สูงวัย ไม่สร้างภาระให้ลูกหลาน ทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลาน ทายาท และครอบครัว รายละ 100,000 บาท