"บิ๊กตู่" ป้อง"ไตรรงค์" ปราศรัยถึงสถาบัน ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี อาจพลั้งเผลอไปบ้าง เตือนให้ระมัดระวัง
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 66 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ หรือ ก.น.บ. ครั้งที่ 1/2566 ถึงกรณีที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีการกล่าวปราศรัยถึงสถาบันในเวทีโคราชที่ผ่านมา จะมีการเตือนอะไรไหรือไม่ ว่า บางทีท่านอาจจะเผลอพลั้งไปบ้าง ก็ขอโทษไปแล้วนี่ ผมก็คุยกันแล้วคุยกันมาตลอด บางทีอย่างว่าท่าน ก็ไม่ได้พูดมานาน แต่ก่อนท่านก็พูดเก่งจะตาย ท่านไม่ได้เจตนาไม่ดีหรอก และผมก็บอกแล้วว่าเราไม่พยายามไปยุ่งกับพรรคอื่น จะเห็นว่าผมไม่เคยว่าให้ร้ายใคร โดยเฉพาะเรื่องการหาเสียง พูดแต่เหตุผลอะไรทำได้ทำไม่ได้ อะไรควรทำหรือไม่ควรทำ
ต่อข้อถามว่า การปราศรัยต้องระวังโยงสถาบันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เตือนไป ต้องเตือนไปและต้องระวังอย่างที่สุด บางทีก็หลุดๆ เมื่อขึ้นไปบนเวทีมีคนจำนวนมากก็หลุด ซึ่งตนก็เครียดอยู่เหมือนกันว่าจะหลุดเหมือนกัน จึงต้องระวังให้มากที่สุด แต่การพูดเรื่องของสถาบันของเราของประเทศไทย ก็ไม่น่าจะผิด ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของเราทุกคนทราบดีอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจไม่มองเช่นนั้น และอาจมีการยื่นตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่นายสมชัยว่าไป ซึ่งท่านก็จับจ้องดูเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ให้เป็นเรื่องของศาลก็ว่ากันไป
เมื่อถามถึงกรณีที่ประกาศบนเวทีถึงการเพิ่มงบประมาณในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 1,000 บาท พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องพิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ เอางบประมาณจากที่ไหน ซึ่งภายในพรรคก็ไปปรึกษาหารือกันแล้วมีหลายคนที่เกี่ยวข้องและมีความรู้ด้านนี้
เมื่อถามย้ำว่า หากเป็นการเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการเป็น 1,000 ต้องใช้งบประมาณรวมเท่าไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประมาณ 15 ล้านคน ยอดเงินประมาณ 4 หมื่นล้าน ซึ่งในส่วนนี้คิดแล้วว่าหางบฯ ตรงนี้ได้ เมื่อถามว่า เป็นการเกทับพรรคอื่นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว่วา ไม่ได้สนใจพรรคอื่น พรรคอื่นก็พรรคอื่น พรรคผมก็พรรคผม ต่อข้อถามว่าเป็นการบลัฟนโยบาย “ป้อม 700” ของพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้น กับหัวหน้าพรรคอื่นก็รักกันดีอยู่แล้วสนิทกันดีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของการหาเสียงก็การหาเสียง แต่ตนหาเสียงในเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะรู้ว่าการบริหารเป็นอย่างไร เป็นนายกฯ ต้องรู้กลไกงบประมาณด้วยว่ามีเท่าไรอย่างไร ถ้าพูดปากเปล่าไป บางทีคูณเป็นตัวเลขเป็นแสนแสนล้าน เอามาจากไหนตนไม่พูด ซึ่งสิ่งพูดไปมั่นใจทำได้แน่นอน และก็มีการปรึกษาเพราะมีตรงนี้อยู่แล้ว คุมงบประมาณอยู่ การเป็นนายกฯ ไม่ใช่พูดไม่มีหลักเกณฑ์หลักการได้ที่ไหน
ผู้สือข่าวถามว่า บางฝ่ายมองว่าเป็นการเน้นแจกเงิน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรียกรัฐสวัสดิการ ไม่ใช่มาแจกอะไร ซึ่งรัฐบาลต้องบริหาร 2 อย่าง คือความเท่าเทียมของโอกาส เช่นที่เน้นเรื่องการขยายถนนหนทาง ทำเส้นทางใหม่เชื่อมทางเชื่อมต่อเป็นการทำต่อจากที่ทำอยู่แล้ว