สธ.เข้มมาตรการสกัดไข้หวัดนก หลังกัมพูชาเสียชีวิต 1 ราย ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย ในครอบครัวเดียวกัน ระบุพื้นที่เกิดเหตุยังห่างจากไทย แต่มีความเสี่ยงจากการลักลอบนำเข้า
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 66 ที่กรมควบคุมโรค นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก หลังมีรายงานผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่ประเทศกัมพูชา ว่า จากรายงานพบผู้ปวยและเสียชีวิตจากไข้หวัดนก H5N1 ที่ประเทศกัมพูชา เป็นเด็กหญิงอายุ 11 ขวบ มีอาการป่วยเมื่อวันที่ 16 ก.พ. อาการรุนแรงขึ้น โดยมีอาการไข้สู. ไอ เจ็บคอ ซึ่งเป็นอาการติดเชื้อทางเดินหายใจชัดเจน ส่งโรงพยาบาลก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (24 ก.พ.) ได้รับรายงานว่าบิดาของเด็กหญิงรายดังกล่าวมีการติดเชื้ออีก 1 ราย แต่ไม่มีอาการ ยังต้องติดตามต่อไป โดยสรุป มี 2 ราย ที่กัมพูชาได้รายงานไปยังองค์การอนามัยโลก และประเทศอื่นๆ ทราบ แต่ก่อนหน้านี้เห็นรายงานเสียชีวิตในเด็ก 1 ราย ที่เวียดนาม
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทั้ง 2 ราย อยู่ที่เมืองไพรแวง อยู่แถบตะวันออกเฉียงใต้ พรมแดนติดกับเวียดนาม ถือว่าอยู่ห่างไกลจากประเทศไทยค่อนข้างมาก แต่ประเทศไทย โดยท่านอธิบดีได้มีการสั่งการให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังตามด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทางบก โดยจะมีการหารือคณะทำงานศูนย์สุขภาพหนึ่งเดียว ที่มีทั้งกรมปศุสัตว์ กรมอุธยานสัตว์ป่าลัพันธุ์พืช กรมควบคุมโรค ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ ตอนนี้ก็มีการให้ความรู้ประชาชนในการลดความเสี่ยง เสี่ยงสัมผัสสัตว์ปีก หากป่วยก็ต้องรีบไปโรงพยาบาลและสอบสวนโรค แยกผู้ป่วย เก็บสิ่งส่งตรวจ หากพบสัตว์ปีกตายผิดปกติ ก็ต้องมีการรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตามไทยไม่เจอผู้ป่วยมานาน 16 ปี แล้ว ด้วยระบบที่เราวางไว้
“ความเสี่ยงของไทยคือการลักลอบนำเข้าสัตว์ปีก จึงขอแนะนำประชาชนให้งดนำสัตว์ปีกเข้ามาในประเทศ ซึ่งมีกฎหมายห้ามนำเข้าอยู่แล้ว ขณะนี้เราต้องเข้มงวด และตระหนักถึงความเสี่ยงในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ทำอะไรที่เป็นการเพิ่มความเสีย่งให้กับประเทศ ส่วนคนที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีคนป่วยก็ให้สังเกตอาการ เพราะหากป่วยก็จะได้ป้องกันตัวเอง สวมหน้ากาก ไปรพ.เพื่อตรวจวินิจฉัย รักษา หากทำได้เร็วโอกาสการระบาดในประเทศจะน้อย ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ” นพ.โสภณ กล่าว
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า สำหรับเชื้อ H5N1 เป็นตัวที่เราเคยเจอเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ส่วนจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่นั้นยังต้องติดตาม ทั้งนี้อัตราป่วยตายปัจจุบันจากทั่วโลกรายงานป่วย 870 ราย เสียชีวิต 457 ราย ดังนั้นอัตราการเสียชีวิตมากกว่า 50 % .