ภท.ดันนโยบาย "เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง" ฟรีทุกจังหวัดภายใน 4 ปี ให้คนป่วยรักษาใกล้บ้าน ลดภาระครอบครัว หลังมีศูนย์ฉายรังสีแค่ 22 จังหวัด
เมื่อวันที่ 21 ก.พ.66 นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวผ่านรายการ "พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ" เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูบ และ TikTok พรรคภูมิใจไทย ถึงนโยบาย “เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด” ของพรรคภูมิใจไทยว่า โรคมะเร็ง ถือเป็นภัยสุขภาพของคนไทยลำดับต้นๆ มีอัตราการเสียชีวิตถึงชั่วโมงละ 6 คน ซึ่งสาเหตุที่คนไทยเสียชีวิตจากมะเร็งมากถึงขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเป็นปัญหาเนื่องจากเรื่องของการเข้าถึงการรักษา โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งอยู่ทั้งสิ้น 114 เครื่องใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ เท่ากับว่ามีเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง 1 เครื่องต่อประชากร 5 แสนคน แม้ตามข้อมูลทางด้านการแพทย์แล้วอาจจะคิดว่า เป็นจำนวนที่เพียงพอ แต่ พรรคภูมิใจไทย มองว่า ชีวิตประชาชนต้องการดีกว่านี้ ต้องมีเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งให้ครบทุกจังหวัด ภายใน 4 ปี และต้องรักษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ผู้ป่วยทุกคนได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว มีโอกาสหายจากอาการป่วยได้มากที่สุด
นพ.เอกภพ กล่าวต่อว่า ในสมัยที่ตนเป็นหมอตรวจรักษาคนไข้อยู่ สิ่งที่เจอคือคนไข้เป็นมะเร็งในบางจังหวัดไม่มีเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ทำให้ต้องส่งไปรักษาฉายรังสีที่ในจังหวัดใกล้เคียง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ลูกหลานต้องลางานไปส่ง บางครอบครัวต้องเหมารถไปรักษา หรือแม้กระทั่งต้องไปนอนค้างที่ต่างจังหวัด ตรงนี้ทำให้คนไข้หลายๆ คนต้องยอมเลือกระหว่างการที่จะยอมเดินทางไปรักษามะเร็งไกลบ้าน ไกลครอบครัว กับยอมที่จะเสียชีวิต สละชีวิต ยอมที่จะหยุดการรักษามะเร็ง เพื่อที่จะให้ลูกหลานครอบครัวมีเงินทองเพียงพอที่จะดูแลปากท้องของตัวเองอยู่ที่บ้าน และยอมให้คนไข้คนหนึ่งเสียชีวิตไปกับมะเร็ง ต่อจากนี้เป็นต้นไป คนไข้มะเร็งไม่ต้องเลือกแล้วว่า จะไปรักษา หรือจะให้ครอบครัวมีชีวิตต่อไปได้ ต่อจากนี้ทุกจังหวัดในประเทศไทย จะมีศูนย์รังสีฉายแสงรักษามะเร็งใกล้บ้าน คนเป็นมะเร็งรักษาทันที ไม่ต้องรอคิวทำให้คนที่เป็นเล็กน้อยสามารถรักษาให้หายได้ คนที่เป็นรุนแรงก็มีกำลังใจที่ดี และรักษาต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือข้อดีของการมีศูนย์ฉายรังสีรักษามะเร็งในทุกจังหวัด ทั่วประเทศไทย