ประชุมรัฐสภาล่ม ก่อนปิดสมัยประชุม ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติไปไม่ถึงฝัน "ชวน"อวยพร ส.ส. ประสบความสำเร็จทางการเมือง
เมื่อวันที่ 17 ก.พ.66 เมื่อเวลา 10.00 น. มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ... ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาแล้วเสร็จ ต่อจากเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้เมื่อเปิดประชุมประธานได้แจ้งว่า ขณะนี้มีสมาชิกมาลงชื่อยังไม่ครบองค์ประชุมจึงยังไม่สามารถเปิดประชุมได้ และจะกลับมาอีกครั้งเมื่อสมาชิกลงชื่อครบแล้ว จนเวลา 10.38 น. จึงสามารถเปิดประชุมได้ โดยมีสมาชิกรัฐสภาแสดงตน เพียง 377 คน แบ่งเป็น ส.ส.209 คน และ ส.ว.แสดงตนเป็นองค์ประชุม 168 คน จากนั้นนายชวน แจ้งต่อที่ประชุมทราบว่า จำนวนสมาชิกรัฐสภาที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้วันนี้ มี 666 คน แบ่งเป็น ส.ส. 417 คน และ ส.ว. 249 คน ดังนั้นองค์ประชุมต้องใช้จำนวน 333 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าทันทีที่เข้าสู่วาระพิจารณา นายชวน ได้ขอมติจากที่ประชุมในมาตรา 14 ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยให้มีการแก้ไขมาตราดังกล่าว แต่ปรากฏว่าเกิดความขรุขระขึ้นเล็กน้อย เมื่อให้สมาชิกรัฐสภาเสียบบัตรแสดงตนก่อนลงมติ ต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำให้องค์ประชุมครบ แม้แต่นายชวน ยังกล่าวขึ้นมาว่า “อย่าให้สภาล่มตั้งแต่เช้าเลยนะครับ” แต่ที่สุดมาตรา 14 ก็ดำเนินผ่านไปได้ โดยที่ประชุมมีมติเสียงส่วนใหญ่ให้แก้ไขตามที่คณะกมธ.แก้ไข ด้วยมติ 242 ต่อ 84 งดออกเสียง 6 ไม่ออกเสียง 3 เสียง
จากนั้นที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณา มาตรา15 นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวมีบุคลากรทางการศึกษาที่ไม่เห็นด้วย เพราะกังวลว่าจะกระทบถึงค่าตอบแทน ดังนั้นตนมีความกังวลใจ และขอให้ชะลอไปก่อน รอรัฐบาลใหม่เพื่อหารือทุกฝ่ายให้รอบคอบ หากเร่งรีบแล้วอาจจะเกิดปัญหากับคุณภาพการศึกษา กระทบกับผู้เรียน แม้อยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าด้านการศึกษา แต่หากพิจารณาแบบเร่งรีบเกินไปอาจมีปัญหาได้
นายชวน กล่าวว่า ตนขอให้นายเกษม หารือกับฝ่ายรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไรกับร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นร่างกฎหมายของรัฐบาล ที่ผ่านมาทำหนังสือไปยังรัฐบาลแจ้งว่าหากอยากให้ร่างกฎหมายผ่านต้องนำองค์ประชุมมาด้วย เพราะสภาฯ พยายามทำงานในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติให้สมบูรณ์ แต่ขณะนี้ฝั่งรัฐบาลมีความเห็นที่แตกต่าง ตนไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไร ที่ผ่านมาต้องอดทนกับการรอองค์ประชุม เพียงมาตราเดียวต้องใช้เวลารอ ทั้งนี้ เวลาเป็นของมีค่าไม่ใช่เฉพาะของตน แต่คือสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด ดังนั้นหากไม่พร้อมจะกินเวลาไปมาก แต่หากพร้อมจะพิจารณาจนถึงเวลา 03.00 น. ตนเต็มใจทำหน้าที่ อย่างไรก็ตามนายตวง อันทะไชย ส.ว. ในฐานะประธาน กมธ. ยืนยันจะใช้กลไกของสภาพิจารณาทำให้การพิจารณาเดินหน้าต่อไป แต่ส.ส.ฝ่ายค้านยืนยันที่จะให้ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปทบทวนเนื้อหา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การลงมติแต่ละมาตราเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เพราะสมาชิกเสียบบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุมบางตา จนกระทั่งเวลา 13.37 น. ประธานที่ประชุมกดออดให้สมาชิกแสดงตนก่อนลงมติ มาตรา 16 ปรากฏว่าเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชม.สมาชิกก็ยังไม่ครบองค์ประชุม โดยมีเพียง 320 คนเท่านั้น
ทั้งนี้ ก่อนปิดประชุม นายชวน กล่าวว่า ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาตนขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกันประชุมพิจารณาเรื่องต่างๆ ได้ผ่านการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 1 ฉบับ พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับการปฏิรูป 13 ฉบับ หนังสือสัญญา 17 ฉบับ อยากเรียนว่า 4 ปี ได้รับความร่วมมือด้วยดี แม้ในช่วงปลายมีปัญหาบ้างก็ตาม ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย 4 ปีเราจะไม่สามารถทำงานได้ถึงขนาดนี้ การเปิดสมัยวิสามัญไม่อยู่ในฐานะที่รัฐสภาทำเองได้ ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลแม้วันนี้คาดว่าจะเป็นวันสุดท้ายของการประชุมร่วมกันของรัฐสภาก็ตาม ขอให้ทุกคนที่มาจากการเลือกตั้งประสบความสำเร็จทางการเมือง ส่วนวุฒิสมาชิกเชื่อว่าส่วนใหญ่เป็นผู้มีความรู้ที่น่าเคารพนับถือ ผมจึงห้ามเสมออย่าพาดพิงเหมารวมจนทำให้ทั้งหมดเสียใจ หวังว่าส.ว.จะได้เป็นกำลังของบ้านเมืองในหน้าที่ของแต่ละฝ่ายต่อไป
จากนั้นนายชวน จึงสั่งปิดการประชุมร่วมรัฐสภา ในเวลา 14.26 น. ซึ่งถือว่าการประชุมรัฐสภาล่ม เป็นครั้งที่ 6 นับแต่ต้นปี2566 เป็นต้นมา