ดอดเที่ยวบาร์เกย์หลังเลิกเมีย !! "อาร์ตี้" ขยาดรักอยากบวชตลอดชีวิต ?
หลังจากที่เจ้าตัวกลับมารับในวงการบันเทิงมากขึ้น ชีวิตของ "อาร์ตี้ ธนฉัตร" ก็ถูกจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวชีวิตหลังหย่า จนได้ฉายาว่า "พ่อม่ายยังเด็ก" เพราะเข็ดจากความรักจนอยากจะหนีไปบวชตลอดชีวิต รวมไปถึงถูกจับตามองหลังมีคนเห็นว่าเจ้าตัวไปเที่ยวบาร์เกย์ รวมไปถึงคำสบประมาทว่าไม่ต้องทำงานก็มีกินไปตลอดชีวิต เพราะพ่อแม่รวยจนถูกมองว่าเป็น "เศรษฐีขอนแก่น"
จากเด็กบ้านนอกสู่ดาราในเมืองกรุง ?
"ตอนนั้นชีวิตค่อนข้างเปลี่ยน จากหน้ามือเป็นหลังมือ เราเป็นคนต่างจังหวัดด้วย อันดับแรกไม่คิดว่าจะมาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ และตอนนั้นที่เขาเลือกผม เพราะว่าเขาเห็นรูปเราจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งตอนนั้นเราอายุ 17 ปี และกว่าจะได้บทนี้(เรื่องบุญชู) ก็ต้องแคสต์ไป 2 รอบ หลายคนอาจจะมองว่าผมแซ่บ แต่ตอนนั้นพอเราอยู่กรุงเทพฯ ขึ้นมหาลัย เราก็เหมือนเด็กที่รู้เยอะขึ้น มีความดื้อบ้าง และจากที่ตอนนั้น 20 ต้นๆ เราเป็นตัวของตัวเองมาก พอจบ ม.ปลาย เราก็อยากไว้ผมยาว อยากไว้หนวด ไว้เครา แต่งตัวไม่เป็น ตอนนั้นอยู่กับไฟว์สตาร์ ผู้ใหญ่หลายคนอยากให้ดูดี เวลาเขาพูดมาเหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา (หัวเราะ) พอมองย้อนกลับไป เราทำตัวเองทั้งนั้น"

ถ้าย้อนกลับไปวันนั้น เราจะทำตามที่ผู้ใหญ่สั่งไหม ?
"ณ ตอนนั้นเราคิดได้แค่นั้น เรายังเด็กอยู่ มันก็เป็นไปตามวัย ผมจะโดนบ่อยที่สุดคือให้ไปฟิตเนส ให้มีกล้าม เวลาใส่เสื้อผ้าจะได้ดูไม่ผอม เขาสั่ง เราก็ไป แต่เต็มที่ไม่เกิน 1 เดือน ไปๆ กลับๆ"
อยู่ดีๆ ก็หายจากวงการไปเลย ?
"ก็คือผมกลับไปอยู่ขอนแก่นเลย การที่เราทำงานมาเรื่อยๆ และสิ่งที่เราทำงานน้อยลง ก็เพราะว่าเราทำงานตั้งแต่เด็กเราเป็นคนเรียนหนังสือไม่เก่ง พอเข้ามหาลัยก็ตั้งเป้าว่าจะตั้งใจเรียน เพื่อจบพร้อมเพื่อนๆ ที่เรียนมาด้วยกัน เลือกจะรับงานน้อยลง มันก็เลยค่อยๆ หายไปทีละนิด จนสุดท้ายคิดไปถึงกับว่าทำไมผมต้องเอาชีวิตตัวเองมาอยู่ในกรุงเทพฯทั้งๆ ที่ครอบครัวก็อยู่ขอนแก่น ถามว่าเรารักการแสดงไหม เราก็ถามตัวเองว่าเราอยากทำอาชีพอะไร แต่ตอนนั้นมันกลายเป็นว่าเราอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว มันไมได้เหงานะ แต่มันรู้สึกอ้างว้าง ทำไมเราต้องมาอยู่ที่นี่ พอเราอยู่คนเดียวถามตัวเองว่าเรามาทำอะไรที่นี่ แต่พอทุกอย่างมันเสร็จหมดทั้งงาน ทั้งเรียนจบ ก็เลยคิดถึงบ้าน "
คิดเสียดายโอกาสไหม ? ที่ตอนนั้นเราทิ้งทุกอย่าง ?
"ก็เหมือนที่ตอบไป ว่าถ้าย้อนกลับไปได้ ก็จะทำเหมือนเดิม คงแก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะในวัยนั้นเราก็คิดแบบนั้น"

ตอนนั้นที่อยู่ในวงการบันเทิง เราไม่ชอบอะไรมากที่สุด ?
"จริงๆ ไม่ใช่ไม่ชอบอะไรเพราะมันมีอะไรให้ทำใหม่ๆ เสมอ มันสนุกทุกครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจกลับบ้านไป มันอาจจะเป็นเหตุผลที่ดูปัญญาอ่อนก็ได้ ผมใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯ และเหนื่อยกับรถติด ต่างจังหวัดรถไม่ติด ไม่ใช่เกี่ยวกับงานที่เราทำเลย มันเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมเท่านั้น และพอเราทำงานไปเรื่อยๆ เราก็อยากมีเวลาเล่นกับเพื่อนบ้าง และพอกลับไปบ้าน เราก็ช่วยที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับปั๊มน้ำมัน ก็ช่วยพ่อแม่ทำ ไปเป็นผู้ช่วย พอเราได้ไปอยู่ก็ได้ลองอะไรใหม่ๆ มาเป็นนักธุรกิจ มันยากกว่าการเป็นนักแสดงซะอีก ถามว่าชอบไหม ก็ไม่ได้ชอบ 100% มันเหนื่อยกับผู้คนมากกว่า รวมไปถึงลูกค้าที่ดีก็มี ลูกค้าที่หัวหมอก็มี อาทิ เขามาเติมน้ำมัน ขีดน้ำมันเตือนต้องเติม และเติม 200 บาทบางทีขีดมันก็ไม่ขึ้น เขาก็จะหัวหมอบอกว่านี่เติมยังไง ทำไมขีดมันไม่ขึ้น จะเอาเพิ่มอีกเท่านึง ตัดปัญหาก็เลยเติมให้ใหม่ ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากปะทะมากกว่า"
ก็เป็นเศรษฐีขอนแก่น พ่อแม่จ้างให้อยู่บ้าน ไม่ต้องทำงาน ?
"อันนี้ไม่จริงครับ แต่ถ้าจ้างก็คือเวลาปิดเทอม ผมอยากได้สิ่งของอะไรก็ต้องไปทำงานแลก ไม่ได้โดนพ่อแม่สปอยล์ ซึ่งถามว่าถ้าตอนนั้นไม่เข้าวงการเราจะมีกินมีใช้ตลอดชีวิตไหม คือถ้าไม่ทำอะไรเลย ก็ไม่มีกินนะครับ (ยิ้ม) ยังไงก็หมดเพราะเราเด็กก็ใช้ไปเรื่อย ถ้าไม่ทำมาหากิน"
แม้อายุจะ 30 ต้นๆ แต่เราก็เคยแต่งงานมาแล้ว ?
"ตอนนั้นแต่งประมาณอายุ 28 ซึ่งแม้หลายคนจะมองว่าเราอายุยังน้อย ไม่ได้ติดใจกับคำว่าพ่อหม้าย ไม่ได้เสียใจที่ได้เจอ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้บทเรียน การที่เราจะเข้าไปคุยกับใครสักคน เราจะเจอเหตุการณ์เหมือนเดิมไหม ในตอนนั้นเราไม่ได้เรื่องมากขึ้นกับความรัก แต่เราเลือกที่จะไม่คุยกับใครดีกว่า เข็ดกับความรัก พอทุกคนนี้เราแฮปปี้ มีความสุขกับการใช้ชีวิตตัวเอง ใช้ชีวิตกับคนรอบข้าง สนุกจนแบบไม่ต้องมีใครก็ได้ (ตอนนี้เราโสด มีคนมาจีบไหม?) ผมก็รอให้ผู้หญิงมาจีบ (ยิ้ม) ซึ่งถ้าเราชอบจริงๆ เราก็จะไม่กล้าเข้าไปคุย ก็แค่มอง และปล่อยเขาเดินไป"
และผู้หญิงคนที่ใช่ต้องเป็นแบบไหน ?
"พอเราผ่านประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าเราจะมีความรักใหม่ เขาก็ต้องเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น ซึ่งเราก็ชอบในสิ่งที่เขาเป็นเหมือนกัน ส่วนสเปกชอบผู้หญิงผมยาว แต่ในทุกวันนี้ ไม่เกี่ยวผมสั้นหรือผมยาว เพราะผมสั้นก็มีเสน่ห์กว่าก็มี ชอบผู้หญิงผิวขาว แต่ถ้ามีผู้หญิงผิวเข้มเข้ามาก็ไม่ติด"

ล่าสุดไปเที่ยวผับ LGBTQ หรือบาร์เกย์ ?
"ผมก็คิดเหมือนคนทั่วไปว่าไปทำไม แต่ด้วยความเพื่อนสนิทจริงๆ ที่โตมาด้วยกัน เขายอมรับว่าเขาชอบผู้ชายนะ เราก็บอกไม่เป็นไร เขาก็เลยพูดว่าอยากให้เราไปเที่ยวโลกของเขาบ้าง ผมก็คิดว่าก็น่าจะลอง ร้านที่เราชอบ เขาก็มา แต่เราไม่เคยไปเที่ยวในโลกของเขาเลย ก็เลยลองไป ไปที่แรกก็คือสีลม ซอย 2 ไปถึงครั้งแรกเราก็ช็อคเหมือนกัน ผมรู้สึกว่านั่งแล้วสบายใจ รอบข้างไม่มีใครสนใจกันและกัน ไม่มีคนมาจีบ เพราะเหมือนเขารู้ว่าคนไหนใช่ คนไหนไม่ใช่และไม่ได้มีแค่ผู้ชาย มีผู้หญิงด้วย (พอเราไปเที่ยวแบบนี้ เราเคยคิดไหมว่าเราเป็นเกย์ดีไหม?) ผมไม่เคยคิด แต่เพื่อนคนนี้ ก็เคยบอกเราว่าเขาก็พูดว่า นี่ไม่มีใคร มึงก็ลองเหมือนกูก็ได้ เราก็ถามกลับว่าต้องทำไง เขาก็บอกว่าไม่ต้องทำไงก็ปล่อยไปตามความรู้สึก แต่เรารู้สึกไม่เหมือนกัน เราไปได้ แต่ถ้าให้เปลี่ยน เปลี่ยนไม่ได้ ผมชอบผู้หญิงเหมือนเดิม"
เห็นว่าในแว้บนึงอยากจะบวชตลอดชีวิต ?
"เคยคิดช่วงนึง ดูจากซีรีส์พระพุทธเจ้าของอินเดียที่เขาทำ ถามตัวเองว่าเรานับถือศาสนาพุทธเพราะอะไร เราศึกษาดูว่าทำไมเรานับถือศาสนาพุทธ เราศึกษา จนเราอิน ก็เลยคิดว่าเป้าหมายชีวิตคืออยากบวชตลอดชีวิต ซึ่งจะบวชในเดือน เมษ.เป็นเวลา 1 เดือน เพราะที่บ้านก็บอกว่าถ้าติดใจ ก็ตัดสินใจเลยว่าจะบวชต่อไหม พ่อแม่ปล่อยให้เราทำอะไรที่เรามีความสุข แต่จากวันนี้ไป เราก็กลับมาทำงานมากขึ้น งานในวงการ เพราะจากที่เราไปทำธุรกิจแล้ว เราไม่ค่อยถนัดเท่าไร"

คลิปสัมภาษณ์ อาร์ตี้ ธนฉัตร
https://youtu.be/KjmUywoZn2s