"บิ๊กป้อม ลงพื้นที่หาเสียงเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ลั่นกวาด ส.ส.กทม. ไม่ต่ำกว่า 12 ที่นั่ง
เมื่อวันที่ 14 ก.พ.66 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ใช้ฤกษ์วันวาเลนไทน์ นำผู้บริหารพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ที่รับผิดชอบพื้นที่ กทม. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ลงพื้นที่หาเสียงในเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เป็นพื้นที่แรก
ก่อนเคลื่อนขบวน พล.อ.ประวิตร ได้เข้าไปในวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) เพื่อสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 จุด เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีประชาชนที่มาทำบุญรอทักทายจำนวนมาก พร้อมกล่าวว่า ลุงป้อมสู้ ๆ ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นรถแห่ปราศรัยหาเสียง และขอให้ชาว กทม. เลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ เข้ามาทำหน้าที่แทนประชาชน ในการขจัดปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทย ขบวนรถแห่ได้เคลื่อนตัวออกจาก ไปยังวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
พล.อ.ประวิตร กล่าวในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งว่า เป็นเป็นครั้งแรกที่ขึ้นรถปราศรัยหาเสียง ที่ลงพื้นที่ในวันนี้เพราะเป็นวันวาเลนไทน์ ต้องการให้ความรัก ก้าวข้ามความขัดแย้ง และแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งเป็นนโบบายของพรรคพลังประชารัฐ ในวันนี้ก็ได้รับการต้อนรับจากชาว กทม.เป็นอย่างดี ตนก็ต้องขอขอบคุณทุกคนด้วย ส่วนการเลือกตั้งในจังหวัด กทม.ตนตั้งใจไว้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้ 12 คน แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ แต่เราพยายามคัดคนที่มีความรู้ ความสามารถ ที่จะเข้ามาทำงานให้กับประชาชน
จากนั้น เวลา 15.20 น. พล.อ.ประวิต และคณะเดินทางถึงวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พร้อมเข้าสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอุโบสถวัดสระเกศ สักการะพระประธานในอุโบสถ พร้อมรับพร “ให้มีกำลังกาย กำลังใจ มีสติปัญญาทำงานให้ประเทศชาติ ให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป”
จากนั้น เวลา 15.35น.พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถึงการลงพื้นที่ กทม. ว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ขึ้นรถแห่หาเสียงและลงพื้นที่ มีคนทักทายระหว่างทางก็ดีใจ การเลือกลงพื้นที่วันนี้เพราะเป็นวันวาเลนไทน์ ก็ต้องการให้ความรักกับคนกรุงเทพ ให้รักกัน ก้าวข้ามความขัดแย้งและจะขจัดความยากจนในพื้นที่ให้หมดไป ซึ่งเป็นแนวคิดที่พรรคพลังประชารัฐดำเนินการ ซึ่งการลงพื้นที่ “เขตป้อมปราบ” เพื่อไปปราบความยากจนไม่ใช่ไปปราบกับใคร และวันนี้ที่มาขอพรวัดสระเกศ ได้อธิษฐานขอให้ประสบความสำเร็จ
เมื่อถามว่า บรรยากาศวันนี้ดูเหมือนประชาชนสองข้างทางตอบรับทักทาย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ดี เพราะอยากให้คนไทยรักกันทุกคนและก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดความยากจน เมื่อถามย้ำว่า เสียงตอบรับจากประชาชนถือว่าดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ สื่อต้องดูเอา และตอบคำถามนี้เอง เมื่อถามว่า แล้วเสียงของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ย้ายออกไปมีผลหรือไม่พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีๆๆ แล้ว สามมิตรก็ ยังอยู่ไม่มีใครออกไปไหน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ยังอยู่ มีแค่นายอนุชา นาคาศัย คนเดียวที่ออกจากพรรคไป ไม่ได้ใจหาย เพราะคนเข้ามาเพิ่มเป็นร้อยคน
เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจแค่ไหนในพื้นที่ กทม. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่เมื่อส่งคนลงสมัครก็ต้องมั่นใจว่าเราได้พยายามคัดเลือก คนที่มีความรู้ ความสามารถ ในการที่จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ พัฒนาประเทศ ผู้สื่อข่าวถามว่าครั้งที่แล้วได้ ส.ส.กทม. 12 คน ในครั้งนี้ตั้งเป้าไว้เท่าไหร่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะได้ ส.ส.กทม. 12 ที่ เป็นต้นไป ไม่รู้ว่าจะได้เท่าไหร่ แต่คนมั่นใจว่า ได้พยายาม คัดคนที่มีความรู้ ความสามารถ ที่จะมาทำงานให้กับประชาชน มาขับเคลื่อนนโยบายของพรรคให้ ประชาชนพ้นจากความยากจน
ต่อข้อถามถึงกรณีที่ มีส.ว.บางกลุ่มประกาศแสดงจุดยืนสนับสนุนการโหวตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพียงแค่ 2 คน คือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร เท่านั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมไม่ใช่ ส.ว. ให้ไปถาม ส.ว.” เมื่อถามย้ำว่าการแสดงจุดยืนดังกล่าว เหมือนปิดประตูพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ผมไม่รู้ ต้องไปถามส.ว.
จากนั้น พล.อ.ประวิตร พร้อมแกนนำ และผู้สมัคร ส.ส.กทม. ได้ถ่ายภาพร่วมดีนบริเวณ ป้อมมหากาฬ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ