เกิดเหตุไหม้ย่านชุมชนใจกลางเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ร้านอาหาร ที่พัก ถูกเพลิงไหม้วอดกว่า 25 คูหา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย เป็นชาวต่างชาติ 6 ราย คนไทย 3 ราย ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมินคาดว่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
เมื่อเวลา 00.15 น.วันที่ 7 ก.พ.ว่าที่ ร.ต.อภินันท์ เผือกผ่อง รอง ผวจ.กระบี่ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ นายเศวตรฉัตร สุวรรณรัตน์ ปลัดอาวุโสเมืองกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่บริเวณย่านใจกลางชุมชนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ย่านการค้าเสียหายอย่างหนัก เมื่อช่วงเวลา 21.00 น.วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยต้นเพลิงมาจากร้านอาหาร อ็อกโทเบอร์ บริเวณซอยสลิงกี้บาร์ ก่อนลุกลามอาคารบริเวณใกล้ เคียงเป็นวงกว้างจนวอดไปกว่า 25 คูหา เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีลมพัดแรง ผู้ประกอบการ ร้านค้า นักท่องเที่ยวต่างวิ่งหนีตายกันอลหม่าน ขณะที่เครื่องมือและน้ำในการดับเพลิงมีจำกัด ทำให้ยากลำบากในการสกัดเพลิง จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง กระแสลมเปลี่ยนทิศทาง เพลิงได้เริ่มสงบลง ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็ช่วยกันลากสายยาง ที่ต่อมาจาก แพลำเลียงของเอกชนมาฉีดสกัดเพลิง พร้อมทั้งช่วยกันขนน้ำดื่มน้ำใช้มาช่วยกันดับไฟที่ยังคงคุกรุ่น เพื่อไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก จนสามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ
ว่าที่ ร.ต.อภินันท์ กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก ถูกเพลิงไหม้ รวมกว่า 25 คูหา ซึ่งในขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้เกือบ100 เปอร์เซ็นต์ยังคงเหลือเสาไม้กลางอาคารที่ต้องใช้เชือกดึงลงมา เนื่องจากยังคงมีประกายไฟ ส่วนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีทั้งหมด 9 ราย ส่วนใหญ่ถูกไฟลวก กระโดดจากที่สูงและสำลักควัน ซึ่งได้มีการเข้าเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บแล้ว เป็นชาวไทย 3 ราย อาร์เจนติน่า 3 ราย บราซิล 2 ราย อิสราเอล 1 ราย โดยชาวอาร์เจนตินา 3 รายรักษาที่คลินิกเอกชน ชาวอิสราเอลรักษาที่คลินิกเอกชน และได้รับอนุญาตให้กลับแล้ว ส่วนชาวบราซิล 2 ราย และคนไทย 1 ราย รักษาตัวที่ รพ.เกาะพีพี ซึ่งทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่มีที่พักทางผู้ประกอบการบนเกาะพีพีได้มีการเปิดห้องพักให้ฟรี
ว่าที่ ร.ต.อภินันท์ กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า สาเหตุเกิดจากแก๊สในร้านอาหารรั่ว ก่อนเกิดประกายไฟ และลุกลามบริเวณใกล้เคียง แต่อย่างไรก็ตามจะต้องรอให้กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง โดยทาง ผวจ.กระบี่ จะลงพื้นที่เกาะพีพีตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการป้องกันต่อไป