ตัดสินใจเลิกรากับสามีชาวต่างชาติไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับอดีตนางแบบชื่อดังโอเด็ต เฮนเรียต แจ๊คโคมิน ที่ล่าสุดได้มาให้สัมภาษณ์ในรายการพระอาทิตย์ Live โดยเธอได้เผยถึงเรื่องราวต่างๆ และสภาพจิตใจในตอนนี้ว่า
เพิ่งจะเซ็นใบหย่าเรียบร้อยค่ะ ก็ใช้เวลานานถึง 8 เดือนเลย เพราะด้วยความที่เราไปแต่งงานที่อเมริกามันเลยค่อนข้างจะยุ่งยาก แต่ในที่สุดก็เรียบร้อยก็ดีใจมากค่ะ กว่าจะตัดสินใจหย่าก็หลายเดือนอยู่เหมือนกัน เพราะเรื่องแบบนี้มันตัดสินใจเร็วไม่ได้หรอกค่ะ เราต้องคิดไตร่ตรองให้ดี แต่พอเราคิดแล้วคิดอีกๆ คำตอบมันก็คือแบบนั้น เราก็ต้องทำตามที่ใจเราต้องการ จนเราถึงที่สุดทะเลาะกันครั้งสุดท้ายเราก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ ดีกัน 2 วัน ทะเลาะกัน 3 วัน
ก่อนแต่งกับหลังแต่งมันคนละเรื่องเลย 3 เดือนแรกที่คบกันนี่ดีมาก เพอร์เฟกต์ แต่พอหลังแต่งเขาเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เขาไม่ดูแลเราดีเหมือนเดิม เราอยากทำอะไรก็ทำ เราไปทำงานกลับมาเขาก็ยังนอนดูทีวีอยู่ท่าเดิม เราก็คุยนะว่าทำไมถึงเปลี่ยนไป แต่เขาบอกว่าเราคิดไปเอง แต่เขาไม่ได้คนอื่นนะ แต่ก็อย่างที่บอกว่าเราตัดสินใจเร็วเกินไป 3 เดือนไม่สามารถรู้จักนิสัยใครได้ดีพอ ก็ตั้งแต่เริ่มคบกันจนแต่งงานจนเลิกราใช้เวลาทั้งหมด 1 ปีกับ 6 เดือนค่ะ ไม่นาน
จุดที่ทำให้รักมันบั่นทอนลงคืออะไร ?
คือเวลาที่คนเราเข้ากันไม่ได้ ความรู้สึกมันก็จะค่อยๆ เฟดลง แล้วพอมันเฟดจนมันไม่เหลืออะไรแล้ว ก็รู้แล้วว่ามันถึงเวลาแล้ว มันเป็นเขาที่ทำให้เฟด แต่จะโทษใครคนใดคนหนึ่งก็ไม่ได้มันมาจากทั้งสองคนมากกว่า
ช่วงทะเลาะกันมีการลงไม้ลงมือกันบ้างไหม ?
คนเราคบกันแต่งงานกัน ก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ แต่เรื่องลงไม้ลงมือขอไม่พูดดีกว่าค่ะ
เรื่องที่ทำให้เราทนไม่ไหวจนต้องตัดสินใจหย่าคืออะไร?
มันก็มีที่ทะเลาะกันแรงๆ บ้าง แต่พอมันหลายๆ ครั้งเข้ามันก็ถึงจุดอิ่มตัวของเราค่ะ เราลองปรับกันทั้งสองฝ่ายแล้ว แต่มันไม่เวิร์กค่ะ ลองหลายรอบแล้ว เขาคิดว่าเขาปรับแล้ว เราก็คิดว่าเราปรับแล้ว แต่ว่าต่างคนต่างก็เป็นตัวของตัวเอง มันก็เลยคิดว่าปรับแต่จริงๆ มันไม่ได้ปรับ หรือว่าปรับแล้วยิ่งแย่ไปกว่าเดิม เรื่องที่ทำให้ทะเลาะกันมันก็เกิดจากหลายๆ อย่างรวมกันค่ะ ทะเลาะกันได้ทุกเรื่อง พอเวลาคนเราหาเรื่องทะเลาะกันได้บ่อยๆ ปุ๊บ เราก็รู้เลยว่าถ้ามันจะเข้ากันไม่ได้ขนาดนี้ทำไมเราถึงแต่งงานกันตั้งแต่แรก
ตอนที่ไปบอกเขาว่าขอหย่า เขาว่าไงบ้าง?
เราก็บอกเขาว่าพอเหอะ มันไปกันไม่ได้แล้ว ตอนแรกเขาก็เหมือนแบบเล่นตัว เขาบอกว่าก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ เราก็เลยบินกลับมาเมืองไทยเลย พอเราบินกลับมาเขาถึงเริ่มมาง้อ แต่เราตัดสินใจไปแล้ว เราก็ต้องไปนั่งกล่อมเขาอีกหลายเดือน ว่าเราบอกแล้วนะว่าเราอยากเลิก ตอนนั้นเธอบอกว่าเธอยอม แล้วทำไมตอนนี้เธอมาเปลี่ยนใจ ก็คุยกันอีกหลายเดือนกว่าเขาจะยอมเซ็น
ก่อนตัดสินใจหย่าเราทนอยู่นานไหม?
ในความคิดของเรา ถ้าเราแต่งงานกับใครเราก็ไม่อยากหย่า อยากจะพยายามให้มันถึงที่สุด ไม่ใช่จะมารักๆเลิกๆ แต่เราก็พยายามแล้ว พยายามอีกมันก็ไม่ไหวจริงๆ จนเราถึงที่สุดแล้วเราถึงขอเลิก
ได้ปรึกษาครอบครัวก่อนไหม?
โทรมาหาพี่สาวตลอดค่ะ พี่สาวก็บอกว่าให้ใจเย็นๆ
ก่อนหย่าเห็นว่ากำลังจะมีน้องด้วย ?
เกือบๆ ค่ะ แต่ยังไม่มี แค่ 2 เดือนแล้วก็หลุด เพราะเราไม่มีความสุข พอชีวิตแต่งงานไม่มีความสุข เราก็เครียดมาก แต่ก็คิดว่าเป็นแบบนี้อาจจะดีที่สุดแล้วสำหรับทั้งสองฝ่ายค่ะ เขาก็เสียใจ เราก็เสียใจ ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ
เสียใจไหมที่ความรักไม่เป็นไปตามที่เราหวังไว้ ?
ช่วงแรกๆ ก็เฟลค่ะ แต่ตอนนี้เรารู้สึกว่ามันเป็นอย่างนี้ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่ายแล้วค่ะ
ได้กลับมาเมืองไทยสบายใจขึ้นไหม ?
สบายใจมากค่ะ ได้กลับมาบ้าน ได้กลับมาอยู่กรุงเทพฯ เหมือนเราได้กับมาบ้านจริงๆ จริงๆ เรากลับมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้อยู่เมืองไทย เราก็ไปเที่ยวไปของเราไปเรื่อยๆ ไปประเทศนั้นประเทศนี้ตามประสาคนโสดค่ะ นี่ก็เพิ่งกลับมาจากจาการ์ตาได้ 2 วัน
จะโสดนานไหม?
ตอบไม่ได้ๆ
มีข่าวว่า ”บอล - อธิป นานา” มาดามใจเรา?
ไม่ใช่ค่ะ พี่บอลนี่ไม่ใช่จริงๆ เรารู้จักกันตั้งแต่เข้าวงการแรกๆ เลย จะเป็น 10 ปีแล้ว ก็งงเหมือนกันนะ เมื่อวานก็คุยกับพี่บอลพี่เขาก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็บอกไม่รู้ พี่บอลมาดามใจเราเหรอ(หัวเราะ) ก็ขำๆ กันทั้งคู่ค่ะ แล้วตั้งแต่กลับมาไทยก็ยังไม่ได้เจอกันเลย ก็เลยไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหน ส่วนมากเราจะคุยกันทางเฟซบุ๊กมากกว่า
อนาคตกับพี่บอลมีความเป็นไปได้ไหม?
ไม่มีค่ะ (หัวเราะ) เราเป็นเพื่อนกันมานานจนรู้ไส้รู้พุงรู้ตับรู้กึ๋นรู้อะไรกันไปหมดแล้วค่ะ ไม่มีสิทธิ์ลุ้นเลยค่ะ
แล้วมีหนุ่มๆ เข้ามาบ้างไหม ?
ก็มีเข้ามาบ้างประปรายค่ะ มีเข้ามาคุยๆ บ้าง แต่ก็ยังไม่มีอะไรมากมาย เป็นตัวเป็นตนค่ะ
ความรักครั้งเก่าทำให้เราเลือกเยอะขึ้นไหม ?
ทำให้เราคิดเยอะขึ้น ให้เราต้องการเรียนรู้มากขึ้น ไม่ใช่ว่าเจอกันแล้วรู้สึกว่าคนนี้ใช่แน่นอน มันไม่เหมือนคราวที่แล้วแล้ว มีมุมมองความรักที่โตขึ้น จากประสบการณ์ที่เราเรียนรู้มาด้วยตัวเอง ทำให้เรารู้ว่าคราวนี้เราจะมาเหลาะแหละมาทำเล่นๆ ไม่ได้แล้ว เพราะว่าคนเราเจ็บแล้วต้องจำ
แบบนี้หันกลับมามองหนุ่มไทยบ้างไหม?
ไม่รู้ค่ะ (หัวเราะ) จะคนไทยหรือต่างชาติ ถ้าเขาเป็นคนดี คุยกับเรารู้เรื่องเราก็โอเคค่ะ
วางแพลนงานที่ไทยไว้อย่างไรบ้าง
ก็คงจะต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุดค่ะ แล้วตอนนี้ก็กำลังวางแพลนเรื่องที่จะทำเพลงกลับไปร้องเพลงอีกรอบหนึ่ง จะออกซิงเกิล เพราะเป็นงานที่เรารักอยู่แล้ว จะเป็นแนวไหนต้องขออุบไว้ก่อนค่ะ แต่เป็นทีมงานเดิมกับที่เราเคยออกซิงเกิลล่าสุด เป็นโปรดิวเซอร์คนเดียวกันค่ะ เป็นค่ายอินดี้ค่ะ ส่วนงานอื่นๆ ก็มีแต่เรื่องเพลงค่ะ ตอนนี้โฟกัสเป็นเรื่องๆ ไป