ไม่รู้พรุ่งนี้จะมีไหม..."เสี่ยบุญชัย"หวานบอก"ตั๊ก"ทุกวันคือวันพิเศษ

2018-02-06 13:50:49

ไม่รู้พรุ่งนี้จะมีไหม..."เสี่ยบุญชัย"หวานบอก"ตั๊ก"ทุกวันคือวันพิเศษ

Advertisement

ใกล้ครบรอบแต่งงาน 5 ปีแล้วสำหรับคู่ของนางเอกสาวมากฝีมือ ตั๊ก-บงกช คงมาลัย กับ คุณบุญชัย เบญจรงคกุล หลังใช้ชีวิตผ่านทั้งทุกข์และสุขมาด้วยกันจนทำให้ความรักแข็งแกร่ง ล่าสุด เจอทั้งคู่ในงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง "SAD BEAUTY เพื่อนฉัน...ฝันสลาย" ที่สาวตั๊กเป็นทั้งผู้สร้างและผู้กำกับเลยสอบถามถึงผลงานดังกล่าวและอัพเดตชีวิตคู่ โดยทั้งสองได้เปิดใจว่า



รู้สึกยังไงบ้างที่วันนี้หนังเสร็จสมบูรณ์



คุณบุญชัย : ตั๊กเขากำกับมาหลายเรื่องนะครับ ทั้งหนังสั้นและหนังยาว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขากำกับและสร้างตามใจตัวเอง ก็อยากจะเห็นอย่างนั้นครับ อยากเห็นเขาใช้ฝีมือและแสดงฝีมือของตัวเองครับ ภูมิใจครับ เสียดายข้าวหอมมาดูไม่ได้ เพราะว่ายังเด็กไป

ก่อนหน้านี้ตั๊กเครียดเรื่องหานายทุนสร้างภาพยนตร์?
คุณบุญชัย : ผมคุยถึงเรื่องโซเฟีย โคเปร่าตลอดนะกับตั๊ก เพราะเขาก็สร้างหนังอาร์ต หนังอินดี้ และมีรอยเท้าใหญ่อย่างพ่อเหยียบเอาไว้ เขาก็เดินเรื่อยๆ ผมเป็นคนไม่รู้เรื่องสร้างหนังนะครับ แต่ว่าดูหนังเยอะ วันละเรื่อง แล้วได้มีโอกาสไปสัมผัสอยู่ที่กองถ่าย ก็ทำให้เรามีความรู้สึกว่าหนังทุกเรื่องเขาถ่ายกันครึ่งคืนนะครับ เพื่อให้ได้แค่ฉากจอดรถ แล้วเราจะสื่อสารกับคนในบ้านเราว่ายังไง เราดูแต่หนังฮอลลีวู้ด หนังบอลลีวู้ดก็ตีมาแล้ว หนังเกาหลีก็มาแล้ว แต่หนังไทยเราก็ยังดูกันไม่มากนะครับ ก็อยากให้ช่วยให้กำลังใจ โดยเฉพาะผู้กำกับหญิงบ้านเราก็มีน้อยอยู่ อยากให้คนมาดูไม่ใช่เพราะว่าต้องดู แต่ดูเพราะว่าเดี๋ยวนี้ผู้กำกับมีการพัฒนาการไประดับไหนบ้าง





คุณบุญชัยให้กำลังใจตั๊กยังไงบ้าง?
ตั๊ก : ไม่ให้กำลังใจเลย คอยปลุกให้ตื่น แล้วบอกไปถ่ายหนังได้แล้ว (หัวเราะ) มีแต่เข็นให้ไปซะงั้น

นายทุนคนนี้เป็นยังไงบ้าง?


ตั๊ก : เราเป็นเหมือนสามีภรรยากันก็จะไม่ค่อยเรียกว่านายทุน เพราะจะดูไม่ค่อยดี
คุณบุญชัย : กระเป๋าเดียวกัน (ยิ้ม)
ตั๊ก : มิกล้า (หัวเราะ) คือเราก็บอกกับพี่บุญชัยว่าเราอยากทำเรื่องนี้ ก็บอกว่าจะทำออกมาให้ดีที่สุด จะพยายามทำให้ได้กำไร พี่เขาก็อยากให้เรามีอาชีพที่เราชอบและอยากจะทำค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะตามใจเราหมด เขาก็จะบอกว่าหนังอย่าอาร์ตนะ อย่าทำให้คนดูหลับ อย่าอินดี้เกินไปนะ มันต้องแมสนะ พี่เขาจะเตือนตลอด เราจะทำอะไรก็ตามไม่ว่าอะไร จะชอบแนวไหนก็ตาม แต่ว่าทุกอย่างมันจะต้องดูแล้วสนุกค่ะ เขาไม่เคยตามใจเลยค่ะ (หัวเราะ) เขาจะสอนเหตุผล อยากให้เราโต เป็นแม่ที่ดี เป็นที่พึ่งของลูกได้
คุณบุญชัย : ก็อยากให้เขาเป็นที่พึ่งของลูกได้ ถ้าวันนึงเราไม่อยู่ เขาก็ได้ทำในสิ่งที่เขาชอบด้วย ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกบังคับให้ทำ ผมเชื่อว่าเขาทำได้ดี เขาเป็นคนที่มีความอ่อนไหวต่อการทำอะไรก็ตาม เขาอ่อนไหวมาก





ตอนที่ตั๊กต้องออกไปถ่ายภาพยนตร์ น้องข้าวหอมว่ายังไงบ้าง?
ตั๊ก : บางทีเขาเห็นเราในทีวีเวลาตั๊กไปออกรายการ เขาก็จะถามว่าคุณแม่เป็นดาราเหรอ ก็บอกว่าไม่ใช่ แม่เป็นนักแสดง แล้วทำไมคุณแม่ต้องไปอยู่ในทีวีด้วยล่ะ ก็บอกว่าแม่เคยเป็นนักแสดงมาก่อน เคยเล่นหนังมาก่อน ก็เริ่มรู้แล้วว่าเราเป็นดารา ก็คงยังไม่เข้าใจหรอกว่าดาราคืออะไร คงดูจากการ์ตูนมากกว่า

ต้องบอกน้องข้าวหอมเรื่องอนาคตในวงการบันเทิงยังไงบ้าง?
คุณบุญชัย : ผมเป็นคนไม่แพลนให้เขาครับ เราก็ให้การศึกษาเขา ส่งเสริมให้เขามีความรู้ มีความสามารถ มีความขยันหมั่นเพียร ที่เหลือเป็นเรื่องของเขาครับ ลูกอยากเป็นอะไรได้หมด ขอให้เป็นคนดีก็พอ





ใกล้ครบรอบ 5 ปีที่แต่งงานแล้วด้วย?
ตั๊ก : ก็รักเขาด้วยใจจริงๆ ค่ะ ต้องดูเบื้องหลังตอนที่ตั๊กกำกับหนังเรื่องนี้ ตั๊กอ้วน 90 กิโลฯ ช่วงนั้นตั๊กไม่สนแล้ว เพราะแม่ก็ป่วยด้วย ไม่ได้คิดว่าสามีจะรู้สึกยังไง ไม่ได้สนใจ คือตั๊กเครียดมาก แล้วก็เดินไปเดินมาอยู่ในบ้านนั่นแหละ แต่พี่เขาก็อยู่กับเราตลอด แล้วเขาก็พูดมาคำนึงว่าปีนี้กับปีที่แล้วมันไม่ดีเลย กินได้ก็ยังดีกว่าไม่กิน เราฟังแล้วก็รู้สึกว่าน่ารักดีที่เขาไม่ว่าเราและเข้าใจเรา ก็เป็นจุดเปลี่ยนเลยค่ะ ตั๊กเลยเริ่มกลับมาดูแลตัวเอง คิดเลยว่าเราคงต้องดูแลตัวเอง กลับมาแข็งแรง เข้มแข็งเหมือนเดิม

ตั้งเป้าน้ำหนักให้ลงกว่านี้อีกไหม
ตั๊ก : ตอนนี้ประมาณ 59 ค่ะ
คุณบุญชัย : พอแล้ว แค่นี้ดูก็ดูแลสุขภาพได้ดีแล้ว
ตั๊ก : ตั๊กก็พยายามดูแลตัวเองนะ เพราะแม่ตั๊กก็มีเชื้อเบาหวาน พ่อก็มี ถ้าเกิดเราปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากๆ แล้วก็เป็นคนชอบทานขนม ตอนนี้ตรวจอาจจะไม่เจอ แต่ในอนาคตล่ะ เราก็ต้องดูแลตัวเอง เพราะลูกเราก็ยังเล็ก

ครบรอบ 5 ปีมีแพลนจะทำอะไรให้กันไหม?
คุณบุญชัย : ทุกวันเป็นวันพิเศษ (ยิ้ม) เราต้องทำให้มันพิเศษ เพราะไม่รู้พรุ่งนี้จะมีไหม เพราะผมผ่านชีวิตที่คุณพ่อคุณแม่ คุณลุง คุณย่าเซอร์ไพรส์วันตาย อย่างคุณแม่ตั๊กวันที่ท่านจะไปก็เป็นวันเกิดท่าน เราก็ดูว่าท่านปกตินะ จะไปฟอกไต เรากำลังจะกินอาหารฉลองวันเกิดกัน ยังไม่ทันได้กินเลย มันก็เป็นบทเรียนว่าถ้าเรามีวันนี้อยู่กับคนที่เรารัก อยู่กับครอบครัวเรา เราก็ควรจะเทกแคร์เขา ไม่ต้องรอครบรอบอะไร
ตั๊ก : ไม่ได้หวังของขวัญอะไรเลย ทุกวันนี้พี่เขาทำหน้าที่สามีและพ่อดีที่สุดแล้วค่ะ หน้าที่ลูกเขยเขาก็น่ารักมาก ดูแลแม่อย่างดี ไปนิมนต์พระจากวัดมาให้แม่ใส่บาตร แล้วคุณแม่เป็นอัมพาต เขาก็จับมือแม่ใส่บาตร ทำให้ทุกอย่างจริงๆ เราเห็นก็รู้สึกว่าพี่เขาดีจริงๆ (ยิ้ม)

จากวันแรกจนถึง 5 ปีนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงใช่ไหม?
ตั๊ก : มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่าเดิม จากที่คนก็พูดกันว่าเรารักกันด้วยอะไร เรามีความผูกพันธ์กันด้วยอะไร ไม่ว่าอะไรก็ตาม แต่ว่าเราตื่นมาเรารู้ว่าเราเป็นใคร เรารู้ว่าเรารู้สึกยังไงก็พอ ของขวัญไม่จำเป็นต้องมีเลยค่ะ ตั๊กบอกเลยว่าถ้าผ่านจุดที่ตั๊กอ้วน 90 กิโลฯ แล้วทนตั๊กได้ตอนตั๊กสติแตกตอนที่แม่ตั๊กป่วยมากๆ คือพี่เขาผ่านมากแล้ว ไม่ต้องหาอะไรมาให้ตั๊กหรอก (ยิ้ม)