ตร.สภ.เทพสถิตรวบยกแก๊งโจรตระเวนขโมยเครื่องมือทำการเกษตร ข้าว นำไปขาย พบบางรายมีคดีติดตัว เพิ่งพ้นโทษ
เมื่อวันที่ 6 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ได้จับโจรตะเวนขโมยเครื่องคูโบต้าและเครื่องมือการเกษตรได้ยกแก๊ง โดย พ.ต.อ.เรวัตร ยวงอักษร ผกก.สภ.เทพสถิต ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศุภกร ประนิทานัง รอง ผกก.สส.สภ.เทพสถิต พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวน เข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ 4 ราย ส่วนอีก 1 รายไหวตัวทันได้หลบหนีออกจากพื้นที่หนีไปต่างจังหวัดก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปถึง
สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายหลายรายว่า ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีแก๊งขโมยเครื่องสูบน้ำ เครื่องคูโบต้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เทพสถิต จึงได้ทำการสืบสวนจนแน่ชัด จนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ 5 ราย มีคดีติดตัวและเพิ่งจะพ้นโทษออกมา จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุมและขยายผล ขณะที่นายประทีป (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ก่อเหตุกำลังลำเลียงอุปกรณ์ทางการเกษตรซึ่งประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำจำนวน 1 เครื่อง เครื่องคูโบต้าที่ใช้ประกอบรถการเกษตรจำนวน 5 เครื่อง ชุดไถขุดดินพรวนดินจำนวน 2 ชุด จึงแสดงตัวจับกุมได้คาหนังคาเขา โดยของกลางทั้งหมดถูกบรรทุกมาในรถมอเตอร์ไซด์พ่วงข้าง มีผ้าใบคลุมทับไว้อีกชั้นหนึ่ง ในครั้งแรกผู้ก่อเหตุให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นของผู้ใดที่นำมาวางไว้บนรถ ต่อมาได้รับสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐาน พร้อมให้การซักทอดผู้ร่วมขบวนการอีก 4 คน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เร่งติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุซึ่งสามารถควบคุมตัวได้เพิ่มมาอีกจำนวน 3 รายคือ นายสุเนตร นายสมาน และ นายนุกูล ส่วนนายอาท (ไม่ทราบชื่อจริง)ไหวตัวทันหลบหนีออกจากบ้านพักไปต่างจังหวัด ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเดินทางไปถึงเพียงไม่กี่ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด พร้อมของกลางมาเก็บไว้ห พร้อมทั้งประสานชาวบ้านที่เคยเข้ามาแจ้งความของหายไว้มาดูว่าเป็นของตัวเองหรือไม่
จากการสอบสวนเบี้องต้นทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันตระเวนลักทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องยนต์ประกอบรถไถนาเดินตาม เครื่องสูบน้ำ รวมทั้งข้าว ในเขตพื้นที่ อ.เทพสถิต อ.ซับใหญ่ อ.บำเหน็จณรงค์ และ อ.จัตุรัส แโดยจะแบ่งงานกันทำอย่างเป็นขั้นตอน ก่อนจะลงมือขโมยล่วงหน้า 1-2วัน จะขับรถจักยานยนต์ตระเวณดูก่อน จากนั้นเมื่อประจวบเหมาะก็จะทำการขโมยนำไปขายตามร้านค้าต่างๆ และมีลูกค้าที่มาติดต่อซื้อโดยตรง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเพิ่งลงมือทำ เนื่องจากบางรายเพิ่งพ้นโทษออกมา บางรายยังมีคดีติดตัว นอกจากนี้จะขยายผลไปยังแหล่งรับซื้อต่างๆ ซึ่งหากสืบทราบว่าเป็นที่ใดก็จะเข้าดำเนินกาเอาผิดฐานรับซื้อของโจรด้วย
นายยงยุทธ อุดธะอิน อายุ 50 ปี อยู่หมู่ที่ 15 บ้านเขาวงพระจันทร์ ต.ห้วยยายจิ๋ว อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ยอมรับว่า ถูกขโมยข้าวเหนียว 9 กระสอบ ข้าวเจ้า 4 กระสอบ รวม 13 กระสอบ โดยได้ไปแจ้งความไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้อยู่บ้านตลอดเวลา มีเพียงคนเฒ่าคนแก่เท่านั้นเฝ้าบ้าน ถือว่าครั้งนี้โชคดีที่โดนขโมยเพียงข้าว ส่วนครั้งต่อไปเกรงว่าอาจถูกขโมยเครื่องยนต์ และรวมไปถึงการทำร้ายร่างกายก็เป็นได้ โชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่รวบตัวโจรแก๊งนี้ได้เสียก่อน