"หมอสุภัทร"โพสต์ความในใจเมื่อคำสั่งย้ายมาแล้ว จะส่งคำอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมของ ก.พ. พร้อมอความเป็นธรรมจากศาลปกครอง ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริต และ ป.ป.ช.
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.66 นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ความในใจเมื่อคำสั่งย้ายมาแล้ว ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณอาจารย์วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ อาจารย์แพทย์ผู้ใหญ่ที่สังคมและตัวผมเองเคารพยิ่ง ที่อาสาเป็นคนกลางในการหารือทางออกร่วมกันระหว่างผมและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งได้เสนอทางออกที่ให้ผมทำงานให้หนักขึ้นคือ เป็นผู้อำนวยการควบทั้งที่ รพ.จะนะและ รพ.สะบ้าย้อย ข้อเสนอและความตั้งใจของอาจารย์วีระศักดิ์นั้น ผมยินดีทำตามที่อาจารย์เสนอ งานหนักไม่กลัว กลัวแต่ว่าข้อเสนอของอาจารย์นั้นจะเป็นหมัน ฝ่าย สธ.ไม่ตอบรับครับ
ผมทราบว่า ทางศาลากลางจังหวัดสงขลาได้ส่งหนังสือคำสั่งย้ายตรงถึงโรงพยาบาลจะนะแล้ว แต่ผมได้ลาพักผ่อนมาประกอบภารกิจของครอบครัวที่กรุงเทพในวันที่ 2-3 ก.พ.66 อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 6 ก.พ.66 ผมจึงจะได้เข้าโรงพยาบาลครับ ไปทำงานและดำเนินการเรื่องคำสั่งโยกย้ายต่อไป
โดยขั้นตอนทางราชการ เมื่อคำสั่งมาถึง ผมก็ต้องลงนามรับทราบคำสั่ง และมีเวลาไม่เกิน 15 วันในการดำเนินการทุกอย่างและเดินทางไปรับราชการในที่ใหม่ เวลา 15 วันนั้นไม่ใช่เวลาสำหรับการเก็บของและเดินทางนะครับ เดี๋ยวนี้ถนนดีรถดีแล้ว แต่เวลา 15 วันนั้น คือเวลาที่สำคัญสำหรับการส่งมอบงาน ซึ่งโดยหลักปฏิบัติทุกฝ่ายต้องสรุปงานที่ดำเนินการอยู่ว่าคั่งค้างถึงไหน ต้องเขียนสรุปงานเป็นเอกสารและนัดอธิบายส่งมอบให้กับผู้อำนวยการคนใหม่ เพื่อที่จะได้สานงานต่อได้อย่างไร้รอยต่อ ส่วนงานที่ว่าด้วยการพัสดุ การเงิน การบริหารบุคคล การจัดซื้อจัดจ้าง งานที่มีกฎหมายกฎระเบียบเข้ามาเกี่ยวข้อง งานบริหารเหล่านี้ที่ยังคั่งค้างยิ่งต้องมีการจัดทำเอกสารที่รัดกุมแล้วจึงส่งมอบ เพราะสิ่งเหล่านี้เกี่ยวเนื่องกับการรับผิดทางกฎหมายด้วย นี่คือภารกิจในช่วงเวลาที่ระเบียบกำหนดให้ว่าต้องเดินทางภายใน 15 วัน
ส่วนเมื่อรับคำสั่งแล้วย้ายแล้ว ผมก็จะส่งคำอุทธรณ์ไปยังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมของสำนักงาน กพ.ตามขั้นตอน ซึ่งกำหนดเวลาที่ต้องยื่นอุทธรณ์ใน 30 วันหลังรับทราบคำสั่ง แล้วก็ปรึกษาทีมกฎหมายของชมรมแพทย์ชนบทในการขอความเป็นธรรมจากศาลปกครอง ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตตามมาตรา 157 หรืออาจจะรวมถึงฟ้องต่อ ป.ป.ช.ต่อไป
ผมเป็นข้าราชการระดับอำเภอ เพียงแต่ผมมีอีกหมวกคือประธานชมรมแพทย์ชนบท การต่อสู้ของผมและผู้คนมากมายในครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อตัวผมเอง แต่ชัดเจนว่า เพื่อฟื้นฟูระบบธรรมาภิบาลของกระทรวงสาธารณสุขที่ถึงจุดต่ำมาก ไม่ให้ตกต่ำไปกว่านี้อีก และให้การถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมที่เห็นชัดเจนกรณีของผมกลายเป็นโฟกัสของความร่วมมือร่วมใจของผู้คนทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข คนละไม้คนละมือที่จะออกมาปกป้องและปลดปล่อยกระทรวงสาธารณสุขจากการครอบงำวางคนเพื่อยึดกระทรวงสาธารณสุขเป็นสมบัติและฐานระยะยาว
ขอเรียนตรงๆ วันนี้การบริหารจัดการภายในของกระทรวงสาธารณสุขนั้นวิกฤตมากๆครับ คนใน สธ.รู้ดีแต่พูดไม่ได้เพราะจะโดนย้าย บ้านของเราอย่าให้คนที่มาเช่าอยู่อาศัยมายึดและทำลายนะครับ
4 กุมภาพันธ์ 2566
ขอบคุณเฟซบุ๊ก นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ