ศาลไม่ให้ประกัน 6 ตร.ห้วยขวางนอนคุก

2023-02-03 09:37:26

ศาลไม่ให้ประกัน 6 ตร.ห้วยขวางนอนคุก

Advertisement

6 ตำรวจ สน.ห้วยขวางนอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัวคดีรีดทรัพย์ก๊วนดาราสาวไต้หวัน ชี้เรื่องร้ายแรงกระทบต่อภาพลักษณ์ กระบวนการยุติธรรมประเทศ 

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.66  ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนตลิ่งชัน พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง นำตัวตำรวจทั้ง 6 นายประกอบด้วย  ร.ต.อ.ยอดฤทธิ์ ลางคุลเสน รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง  ร.ต.อ.ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา รองสารวัตรธุรการ สน.ห้วยขวาง   ด.ต.กฤษฎา คำมะนา ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง ส.ต.อ.เฉลิมชัย ศิริวังโส ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง ส.ต.อ.วัชรนนท์ ชาวยอง ผู้บังคับหมู่ ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง  ส.ต.อ.นันทวัชร์ สุวรรณา ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม) สน.ห้วยขวาง  ผู้ต้องหาที่ 1-6 ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน  ในความผิดฐาน 1.เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ 2.เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นความผิดตามมาตรา 149, 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

โดยวันที่ 5 ม.ค. 66 เวลา 00.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจทั้งหกนายที่ถูกกล่าวหาปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่าน อยู่บริเวณถนนรัชดาภิเษก หน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย แขวงดินแดง เขตดินแดง  กทม. จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.27 น. มีนายเป จึง ชื่อ หรือ "สกาย"  สัญชาติสิงคโปร์ กับพวกรวม 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน โดยสารรถยนต์ยี่ห้อมาสด้าสีแดง คันหมายเลขทะเบียน 4กส 522 กรุงเทพมหานคร มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหากับพวกตั้งด่านอยู่ มีผู้ต้องหาที่ 5 เป็นผู้คัดรถยนต์เข้ามาให้ผู้ต้องหาที่ 6 ตรวจค้นบุคคลในรถ ผู้ต้องหาทั้งหกเชิญ นายเป จึง ชื่อ ลงจากรถเพื่อค้นตัวมีผู้ต้องหาที่ 3 เป็นผู้ค้นตัวส่วนเพื่อนของ นายเป จึง ชื่อ อีก 2 คน ถูกกลุ่มผู้ต้องหาค้นตัว การตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 3 อัน ผู้ต้องหาที่ 2-3 พูดคุยสอบถาม เพื่อขอดูหนังสือเดินทางและวีซ่าจาก นายเป จิง ชื่อ กับพวก ขณะนั้นนายเป จึง ชื่อ กับพวก ไม่ได้พกหนังสือเดินทางติดตัวมาด้วย มีเพียงภาพถ่ายหนังสือเดินทางในโทรศัพท์มือถือผู้ต้องหาที่ 2-3 พยายามพูดจาข่มขู่ นายเป จิง ชื่อ กับพวก ว่ากระทำความผิดโดยครอบครองบุหรี่ไฟฟ้ากับไม่พกหนังสือเดินทางพร้อมวีซ่า อ้างว่าจะพาไปสถานีตำรวจ ทั้งที่ไม่มีเจตนาที่จะพาไปจริง กลับข่มขู่ให้ นายเป จิง ชื่อ กับพวก เกิดความกลัว จนกระทั่งผู้ต้องหาที่ 2-3 ปรึกษาและตกลงกันเรียกเงินจากนายเป จึง ชื่อ กับพวก เป็นเงิน 27,000 บาท แบ่งเป็น ค่าที่พกบุหรี่ไฟฟ้าอันละ 8,000 บาท ทั้งหมด 3 อัน และค่าไม่พกหนังสือเดินทางอีก 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 27,000 บาท นายเป จึง ชื่อ ยืนยันว่า ตนกับพวกไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะบุหรี่ไฟฟ้า ที่ตนกับพวกซื้อจากร้านที่วางขายของย่านห้วยขวาง ไม่ผิดกฎหมาย แต่ด้วยความกลัวและเกรงว่าจะเสียเวลา นายเป จึง ชื่อ และ น.ส.ชาลีน หรือ อันชิง ชาวไต้หวัน จะเดินทางกลับต่างประเทศในคืนวันเกิดเหตุ  จึงจำยอมจ่ายเงินจำนวน 27,000 บาท ให้กับ ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นผู้รับเงินใส่ในกระเป๋าเสื้อนอก นายเป จึง ชื่อ กับพวก ถามว่าตนกลับได้หรือไม่ ผู้ต้องหาที่ 3 บอกว่า ต้องสอบถามผู้ต้องหาที่ 2 ก่อนที่ผู้ต้องหาที่ 2-3 เดินมายังนายเป จึง ชื่อ กับพวก พร้อมยื่นบุหรี่ไฟฟ้าที่ยึดไว้ในตอนแรกให้นายเป จึง ชื่อ กับพวก ถือไว้คนละอัน ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้สั่งให้ผู้ต้องหาที่ 3 ใช้ไฟฉายส่อง ขณะผู้ต้องหาที่ 3 ถ่ายรูปเพื่อให้แสงสว่างในการถ่าย จากนั้นผู้ต้องหาที่ 2 อนุญาตให้นายเป จิง ชื่อ กับพวกกลับไปได้

ภายหลัง ผู้ต้องหาที่ 3 นำเงิน 27,000 บาท ที่ได้รับ มอบให้กับผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดที่นั่งในรถที่จอดไว้บริเวณที่เกิดเหตุรับเงินจำนวนดังกล่าว แล้วนำไปแบ่งในกลุ่มผู้ต้องหา เหตุเกิดบริเวณถนนรัชดาภิเษก หน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

พนักงานสอบสวน ขอฝากขังผู้ต้องหาทั้งหก มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2-13 ก.พ.66 และขอคัดค้านการขอปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีภายหลัง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิจารณาคำร้องขอฝากขังแล้ว อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหกได้  ส่วนที่ผู้ต้องหาทั้ง 6 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว กรณีเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบต่อภาพลักษณ์และกระบวนการยุติธรรมของประเทศโดยรวม อีกทั้งผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและกระบวนการในชั้นสอบสวนประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้องจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

สำหรับกรณีความผิดอาญาอัตราโทษสูงตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะมีโทษปรับหรือไม่ ศาลมีอำนาจสั่งขัง หลายครั้งติดกัน ครั้งละไม่เกิน 12 วัน แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 84 วัน ดังนั้นผู้ต้องหาจะถูกฝากขังสูงสุดได้ไม่เกิน 7 ครั้ง โดยชั้นนี้เป็นการฝากขังระหว่างตำรวจทำสำนวน ให้อัยการมีความเห็นว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ต่อไป