อธิการบดีนิด้ายืนยันระงับโพลนาฬิกาหรู "บิ๊กป้อม" เพื่อความถูกต้อง เหตุคำถามชี้นำสังคม ไม่สร้างประโยชน์ ผู้ทำโพลมีอคติ ไม่เป็นกลาง ยืนยันหากมีหลักฐานว่าโพลถูกแทรกแซงจริงพร้อมลาออกจากตำแหน่งทันที
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) แถลงกรณีการระงับผลโพลประเด็นยืมนาฬิกาหรู เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ผอ.ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล หลังเข้ารับตำแหน่งได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ โดยระบุว่า การระงับผลโพลดังกล่าว มีเหตุผลหลัก 3 ประเด็น ได้แก่ 1.ประโยชน์ที่ได้ต่อสังคม ซึ่งตนคิดว่า การทำโพลเรื่องนี้ในช่วงเวลานี้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่กำลังอยู่ภายใต้การสอบสวนของ ป.ป.ช. และยังไม่ได้ข้อสรุป ดังนั้นผลของโพลอาจสร้างกระแสชี้นำสังคมไปสู่ความวุ่นวายได้
รศ.ดร.ประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ 2 คำถามในการทำโพลเป็นคำถามชี้นำอย่างชัดเจน ได้แก่ คำถามที่ 1 ปกติเพื่อนของท่านเคยให้ยืมนาฬิกาแสนหรูราคาแพงมาใส่หรือไม่? คำถามที่ 2 หากนักการเมืองอ้างว่าทรัพย์สินมูลราคาสูงมากที่ครอบครองมาจากการหยิบยืมเพื่อน ท่านเชื่อว่าเป็นการพูดความจริงหรือไม่? คำถามที่ 3 ท่านคิดว่าการอ้างเรื่องการหยิบยืมทรัพย์สินราคาแพงมาครอบครอง จะทำให้การตรวจสอบการทุจริตต่อไปในอนาคตทำได้หรือไม่? คำถามที่ 4 ท่านคิดว่าคนที่พูดโกหก หรือพูดไม่จริง มีโอกาสประพฤติทุจริตหรือคดโกงหรือไม่? และคำถามที่ 5 ท่านยอมรับพฤติกรรมการปกป้องพรรคพวกรุ่นพี่รุ่นน้องที่น่าสงสัยว่าจะทุจริต ประพฤติมิชอบกระทำผิดกฏหมายได้หรือไม่? อีกทั้งผู้ที่ตอบแบบสอบถามร้อยละ 55 มีรายได้ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท และร้อยละ 61 มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ดังนั้นการตอบคำถามว่า เพื่อนไม่เคยให้ยืมนาฬิกาหรู จึงเป็นคำตอบที่มีโอกาสเป็นไปได้สูง รวมทั้งมีการบรรจุคำที่สร้างอารมณ์ เช่น แสนหรูราคาแพง ซึ่งถือเป็นการชี้นำสังคม
รศ.ดร.ประดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า และเหตุผลสุดท้าย จากกรณีที่ ดร.อานนท์ ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ซึ่งเป็นวันก่อนการทำโพล ข้อความว่า "ถ้าป้อมรอด ตู่กับ คสช. ก็จะไม่รอด อยู่ไม่ได้ ขาดความชอบธรรม" แสดงให้เห็นว่า มีอคติ และไม่เป็นกลางต่อประเด็นนี้ ซึ่งจากเหตุผลทั้งหมด ทำให้โพลครั้งนี้ขาดคุณสมบัติเป็นโพลที่ดี ตนจึงต้องระงับผลโพลครั้งนี้ เพื่อรักษาความถูกต้องและชื่อเสียงของสถาบัน เนื่องจากการเป็น ผอ.นิด้าโพล ยังคงต้องอยู่ในการดูแลตรวจสอบจากอธิการบดี ให้สามารถตรวจสอบท้วงติงได้ พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยแก้ไขผลโพลของนิด้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว และเสียใจที่ชื่อเสียงของสถาบันต้องเสื่อมเสีย เพราะคนที่เพิ่งมาทำงานได้เพียง 10 วันเท่านั้น หากมีหลักฐานว่าตนถูกแทรกแซงจริง ก็พร้อมที่จะลาออกจากตำแหน่งอธิการบดีทันที