"ทิพานัน"สมัครสมาชิก รทสช. ทำหน้าที่รองโฆษกรัฐบาลต่อลุยสื่อสารผลงานรัฐบาล
เมื่อเวันที่ 1 ก.พ. 66 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายมินทร์ ลักษิตานนท์ อดีตผู้สมัคร ส.ก.เขตจอมทอง และนายศุข ศักดิ์ณรงค์เดช อดีตผู้สมัคร ส.ก.ยานนาวา เดินทางสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยมีนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ให้การต้อนรับ พร้อมมอบเสื้อพรรคให้ น.ส.ทิพานัน โดย น.ส.ทิพานัน ได้สมัครสมาชิกพรรคตลอดชีพ ท่ามกลางกองเชียร์จากเขตจอมทอง ที่สวมเสื้อสีเหลืองมาให้กำลังใจด้านหน้าที่ทำการพรรค
นายเอกนัฏ กล่าวว่า เป็นข่าวดีของพรรคที่มีโอกาสต้อนรับสมาชิกคนใหม่ น.ส.ทิพานัน เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ทำงานเต็มที่ 100% ทั้งในพื้นที่และในฐานะรองโฆษกรัฐบาลทำหน้าที่ได้ดีสม่ำเสมอ เป็นโอกาสดีของพรรคที่จะได้ผู้ร่วมภารกิจรวบรวมคนทุกสี ทุกรุ่นทุกวัย ตามอุดมการณ์ของพรรคและเจตนารมณ์ของผู้ใหญ่ในพรรค ตนทาบทาม น.ส.ทิพานัน ให้มาช่วยงานสื่อสารของพรรค โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับคนรุ่นใหม่ ทั้งในและนอกแวดวงการเมืองด้วย เช่น หอการค้า หรือกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกันถึงว่าจะให้มาเป็นทีมโฆษกพรรคหรือไม่ ตอนนี้มองแค่เรื่องงานสื่อสารก่อน เมื่อถามถึงการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.เขต นายเอกนัฏ กล่าวว่า ต้องพูดคุยกันต่อว่าแบบไหนดี ตอนนี้ผู้บริหารพรรคตัดสินใจยาก เพราะ น.ส.ทิพานัน ทำหน้าที่ได้ดีทั้งสองด้าน และถ้าลง ส.ส.เขต ก็มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ เพราะไม่เคยทิ้งพื้นที่ แต่ถ้าลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็จะหาคนทำงานในพื้นที่ที่มีคุณสมบัติไม่แพ้ น.ส.ทิพานัน มาลง อย่างไรก็ตาม พรรคเตรียมความพร้อมในพิ้นที่ กทม. ไว้เกือบ 100% แล้ว แม้ว่าการแบ่งผู้สมัคร ส.ส.เขตยังไม่เรียบร้อย เพราะทุกเขตมีคนแสดงความจำนงที่จะลงสมัครมากกว่า 1 คน เป็นความยากของคณะกรรมการบริหารพรรคต้องตัดสินใจ แต่ยังเชื่อว่าโอกาสในการชิงชัยในพื้นที่ กทม. ของพรรคยังมี เพราะการเลือกตั้งปี 62 เห็นแล้วว่า คนเก่าก็ต้องหลีกทางให้คนใหม่พรรคใหม่ที่มีความสามารถ และทำงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า หลังจากนี้ยังทำหน้าที่รองโฆษกรัฐบาลต่อ เพื่อสื่อสารผลงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะไม่มีความขัดแย้ง เนื่องจากเคลมผลงานกัน เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่า ทุกผลงานที่เกิดขึ้นก็มาจากการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ตัวเองก็แบ่งแยกหน้าที่ได้ ไม่เกิดความขัดแย้ง