"อนุทิน"ชูปราบยาบ้าครอบครอง 1 เม็ดผู้เสพ 2 เม็ดขึ้นไปจำหน่าย (มีคลิป)

2023-01-29 21:58:36

"อนุทิน"ชูปราบยาบ้าครอบครอง 1 เม็ดผู้เสพ  2 เม็ดขึ้นไปจำหน่าย (มีคลิป)

Advertisement

"อนุทิน"ลงพื้นที่ชุมชนวัดมะกอกช่วย  "ภาดาท์" หาเสียง ชูปราบยาเสพติด ครอบครองยาบ้า 1 เม็ดเป็นผู้เสพต้องบำบัด  ส่วน 2 เม็ดขึ้นไปเป็นผู้จำหน่ายโทษหนัก ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ 

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.66 ที่ชุมชนวัดมะกอก เขตสามเสนใน กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  (ภท.)  พร้อมด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร  ส.ส.กทม. และทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชน พร้อมนำเสนอนโยบายของพรรค

นายอนุทิน ได้ชี้แจงนโยบายของ ภท. ว่า  กทม.มีปัญหาเฉพะตัว ต่างจากต่างจังหวัด เราจำเป็นต้องใช้คนเก่งเข้ามาช่วยงาน ที่ผ่านม ภท. เป็นรัฐมนตรีในหลายกระทรวง อย่างกระทรวงสาธารณสุข เราได้พยายามสุดความสามารถ เพื่อให้ระบบสุขภาพองค์รวมดีขึ้น มีคนบอกว่า จะยกระดับเรื่อง 30 บาทรักษาทุกที่ อยากจะบอกว่า ทำไปหมดแล้ว อย่างเรื่องของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ถ้าภูมิใจไทย ได้เป็นรัฐบาล เราจะมีเครื่องฉายรังสีในทุกจังหวัด ผู้ป่วยโรคไต ต้องได้รับความสะดวกสบาย ทุกอำเภอ ต้องมีศูนย์ไตเทียม กับ กทม. งานสาธารณสุขอยู่ในมือของ กทม.  กระทรวงสาธารณสุข เข้าไปทำงานได้ไม่เต็มที่ ในอนาคต จะต้องมีศูนย์สุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อประสานงานกับ กทม. ถ้าโรงพยาบาลใน กทม. เต็ม ต้องส่งไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้เลย


"เรื่องยาเสพติด  ภท. มองว่าเป็นปัญหาใหญ่ เราต้องแก้ไขด้วยการแก้กฎหมาย จากนี้ ใครครอบครองยาบ้า 1 เม็ด เท่ากับเป็นผู้เสพ และ 2 เม็ดขึ้นไป เป็นผู้จำหน่ายเลย โทษหนักเลย เตรียมลงนามเร็วๆ นี้"นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า การมี ส.ส. ในพื้นที่ นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะจะได้ประสานงานกันได้คล่องตัวขึ้น น.ส.ภาดาท์ พาตนมาลงพื้นที่จึงได้รู้ว่า ที่นี่มีปัญหาอะไรบ้าง  ขอย้ำว่า อะไรที่เป็นความสุขของประชาชน เราพร้อมทำ อะไรที่เป็นความทุกข์ของประชาชน เราพร้อมแก้ไข ที่ผ่านมา ภูมิใจไทย ทำงานไม่เกรงใจใคร เราเกรงใจอยู่คนเดียวคือ ประชาชน 

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ภท.จะพยายามไม่แบ่งเป็นขั้วหรือแบ่งฝ่าย และเชื่อว่าไม่มีประชาชนคนไหนอยากเห็นความขัดแย้ง ดังนั้น ควรให้ผลของการเลือกตั้งเป็นตัวตัดสิน ดีกว่าที่จะมาบอกว่าจับมือกับคนนั้นไม่ได้ คนนี้ไม่ได้ เพราะหากตั้งแง่ เขาก็จะมาดิสเครดิตเรา และเราก็ต้องมาค่อยตอบโต้ ยิ่งสร้างความขัดแย้งให้ทวีคูณ พรรคภูมิใจไทยไม่ทำเช่นนี้ ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินและใครได้คะแนนเท่าไหร่ นั่นคือความต้องการของประชาชน แล้วพรรคที่เป็นแกนนำ ก็ต้องแปลความต้องการของประชาชนเป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยแปลได้ 100% และผลของการเลือกตั้งจะเป็นทางออกว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นอย่างไร


"พรรคภูมิใจไทย จับมือได้กับทุกขั้วหลังการเลือกตั้งเรา สามารถทำงานร่วมกับใครก็ได้ โดยจะสร้างความสามัคคีเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ภายใต้ระบบรัฐสภาและหากพรรคภูมิใจไทย มี ส.ส.มากที่สุด ผมก็จะต้องเป็นนายกฯ เพราะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวของพรรค ถ้าประชาชนเลือกเราเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ก็เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีเอง" นายอนุทิน กล่าว