"โรม"โวยปมตำรวจรีดไถดาราสาวชาวไต้หวันเรื่องใหญ่ ทำงานการท่องเที่ยว รัฐบาลปล่อยให้เกิดปัญหารายวัน ไร้มาตรการป้องกันชัดเจน
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.66 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการรีดไถนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันว่า ในวงการตำรวจส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาการรีดไถ การทุจริต ทำให้ตนเกิดความสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้น และผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในวงการตำรวจไม่ใช่ ผบ.ตร. คนเดียว แต่ยังรวมไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม วันนี้รัฐบาลทำอะไรถึงปล่อยให้เกิดปัญหารายวันโดยเฉพาะกรณีดาราสาวชาวไต้หวันถูกรีดไถมองว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เป็นเพียงการทุจริตแต่เป็นการทำลายการท่องเที่ยวของประเทศซึ่งแม้ว่ารัฐบาลจะบอกว่ามีการตั้งคณะกรรมการสอบแล้วแต่อะไรคือการป้องกันไม่เห็นมีความเป็นรูปธรรมหรือมาตรการที่ชัดเจน
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวขอแสดงความเสียใจและขอโทษประชาชนชาวไทยกับเรื่องที่เกิดขึ้นรวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่อาจโพสต์เรื่องดังกล่าวในโลกโซเชียล ซึ่งในฐานะที่เป็นเป็นเหมือนเจ้าของบ้านแล้วมีแขกมาประเทศไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะเชื่อว่า ประชาชนชาวไทยที่ตั้งใจทำงานอย่างสุจริตยังมีอีกเยอะ และคงได้แต่ตั้งเป้าว่าจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกและจะพยายามปรับปรุงแก้ไขทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดและมั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็น ให้ประสบการณ์ที่ดีกับนักท่องเที่ยว
ส่วนกรณีล่าสุดที่ ส.ก. ของพรรคก้าวไกลได้ออกมาเปิดเผยกลุ่มทุนจีนที่อยู่แถวห้วยขวาง นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบ ซึ่งเรียกว่าเป็นทั้งจีนเทา ไทยเทา โดยพรรคก้าวไกลกำลังเก็บข้อมูลและตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่า หากอยากให้บ้านเมืองสะอาดเราต้องเอาความจริงมาพูดไม่ใช่ปกปิด วันนี้ตนได้มีการตั้งกระทู้ถามสดไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในหลายประเด็น เรื่องแรก เกี่ยวกับความเชื่อมโยงในเรื่องของการฟอกเงินที่เกี่ยวกับคดีนายตู้ห่าวซึ่งมีความเชื่อมโยงกับหลานของพล.อ.ประยุทธ์ เรื่องที่สองตนได้ตั้งคำถามถึงการย้ายตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมแต่กลับถูกสั่งย้ายตำแหน่งซึ่งเท่าที่ทราบ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้มาตอบกระทู้เหล่านี้และในฐานะผู้แทนประชาชน เราจะทราบได้อย่างไรว่าท่านกำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ รวมถึงกรณีที่สภามีการล่มหลายครั้ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น และเป็นร้ายแรงไม่ต่างกัน เพราะมีคณะรัฐมนตรีมีที่ไม่ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว