บรัสเซลส์, 24 ม.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (23 ม.ค.) บรรดาคณะรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหภาพยุโรป (EU) ต่างเห็นพ้องมอบเงินช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเพิ่มเติมอีก 500 ล้านยูโร (ราว 1.78 หมื่นล้านบาท)
โจเซฟ บอเรลล์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างประเทศของอียู แถลงหลังการประชุมรัฐมนตรีฯ ว่าคณะรัฐมนตรียังอนุมัติงบเพื่อใช้ในการฝึกอบรมทางทหารแก่ยูเครนอีก 45 ล้านยูโร (ราว 1.6 พันล้านบาท) ด้วยเช่นกัน ซึ่งเงินชุดนี้นับเป็นเงินช่วยเหลือทางทหารชุดที่ 7 แก่ยูเครน
การมอบเงินครั้งนี้ทำให้ยอดเงินรวมของความช่วยเหลือทางการเงินทางทหารแก่ยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนผ่านโครงการยูโรเปียน พีซ ฟาซิลิตี (European Peace Facility) เพิ่มขึ้นเป็น 3.6 พันล้านยูโร (ราว 1.28 แสนล้านบาท) ขณะเงินสนับสนุนแก่ยูเครนจากอียูกำลังใกล้แตะที่ 5 หมื่นล้านยูโร (ราว 1.78 ล้านล้านบาท) ทำให้อียูกลายเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือรายใหญ่ที่สุดแก่ยูเครน
ด้านรัสเซียกล่าวเน้นย้ำว่าการจัดหาอาวุธของชาติตะวันตกให้แก่ยูเครนไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้ง ทว่าเป็นการยืดเยื้อความทุกข์ทรมานของชาวยูเครน
นอกจากนั้นคณะรัฐมนตรียังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิหร่าน พร้อมบรรลุข้อตกลงการคว่ำบาตรชุดที่ 4 ต่อเจ้าหน้าที่อิหร่าน บุคคลระดับสูง และองค์กรต่างๆ ซึ่งรวมถึงกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ รวม 37 คน อาทิ คณะผู้แทนของรัฐบาลและรัฐสภาอิหร่าน บุคคลสำคัญทางการเมืองและสื่อ และสมาชิกระดับสูงของกองกำลังความมั่นคงอิหร่าน
อย่างไรก็ดี บอเรลล์กล่าวว่ากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านไม่สามารถถูกจัดเป็นกลุ่มก่อการร้ายได้ หากปราศจากการตัดสินของศาล
(แฟ้มภาพซินหัว : อาคารที่ได้รับความเสียหายในกรุงเคียฟของยูเครน วันที่ 31 ธ.ค. 2022)