กรณี “พระอ๋อย” หรือ พระสมุห์ประสาทพร มหาปุญโญ อายุ 65 ปี เจ้าอาวาส วัดบางหญ้าแพรก ที่เคยถูก “หมอปลา” พร้อมด้วยชาวบ้าน พาสื่อมวลชนบุกกุฏิ พบสีกาเข้าไปในกุฏิเจ้าอาวาส และยังมีการนำยางรัดผมของผู้หญิงมารัดที่ศีรษะ จนสุดท้ายต้องสึกออกจากวัด ล่าสุดสังคมมีการวิพากษ์วิจารณ์ หลังจากมีภาพพระอ๋อย ได้บวชเป็นพระใหม่อีกครั้งที่วัดขุมข้าว จนทำให้เจ้าอาวาสวัดขุมข้าวโดนปลดฟ้าผ่า ด้านญาติพระอ๋อยเผยว่าพระอ๋อยไม่ได้ผิดอะไรเลย ที่ผ่านมาพระอ๋อยถูกวางงาน รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ ป้าปุ๊ย น้องสาวพระอ๋อย, จารุต - รณิดา ลูกศิษย์, ป้าโต, เก๋, ลุงอ๊อด, กอบ ชาวบ้านบางหญ้าแพรก และ อรรณพ บุญสว่าง ทนายความ
ป้าไม่เห็นควรต้องไล่พระอ๋อยออกจากวัดขุมข้าว?
ป้าปุ๊ย : รู้ว่าบวช แต่ทำไมคนชอบจองล้างจองผลาญ จองเวรจองกรรมกันอยู่ได้ มันเรื่องอะไร มันเป็นอะไร เขาสึกไปแล้ว แล้วเขามาบวช มันไปทำอะไรให้
จะบอกว่าหนักหัวใคร?
ป้าปุ๊ย : ใช่ ทำไมต้องไปจองล้างจองผลาญเขาขนาดนั้น ฉันอยากจะรู้ ฉันพี่น้องกัน ฉันก็ต้องเจ็บใจ
เคยทัดทานมั้ยตอนพี่จะบวชอีก?
ป้าปุ๊ย : เขาก็แต่งชุดขาวอยู่ 3-4 เดือน แล้วเขาก็กลับมาบวชใหม่ พี่น้องก็ว่าบวชก็บวช ไม่ได้ว่าอะไร มาวันนี้มาเกิดเรื่องนี้อีก มันเรื่องอะไรกัน ถึงมาจองล้างจองผลาญกัน คนเอาคลิปไปส่ง ทำไมต้องไปจองล้างจองผลาญกันขนาดนี้
คุณเอ (นามสมมติ) อยู่ในสาย ชาวบ้านนครนายก คุณเป็นคนถ่ายคลิปพระอ๋อยหรือเปล่า?
เอ : ไม่ใช่ค่ะ แต่รู้ว่ามาอยู่ก่อนเข้าพรรษาที่แล้วค่ะ ท่านบวชที่อื่นแล้วมาอยู่ที่นี่มั้ย อันนี้ไม่ทราบเลยค่ะ เพราะที่นี่จะบวชใคร เจ้าอาวาสไม่เคยมาบอกชาวบ้านเลยค่ะ
ทำไมจำได้ว่านี่เป็นพระอ๋อย พระปวดหัว?
เอ : จริงๆ แล้วท่านพยายามเลี่ยงที่จะออกมาเจอชาวบ้าน เนื่องจากว่าเวลานั่งฉันข้าวก็ไม่มาร่วมวง จะมาทีหลัง งานเทศกาลก็ไม่ค่อยออกมา แต่ว่าอยู่ในวัดก็ต้องเห็นกัน แล้วมีคนจำได้ มีคนเห็นในหมู่บ้านแล้วก็บอกต่อๆ กัน เราก็ไม่รู้จะทำอะไรได้ เราไม่ทราบว่าท่านผิดมั้ย จะกลับมาได้มั้ย เราไม่ทราบข้อนี้ เพราะเราไม่มีเอกสารอะไร
ชาวบ้านไม่สบายใจ?
เอ : ใช่ค่ะ เราก็ได้แต่พูดกันเฉยๆ เราทำอะไรไม่ได้ เพราะเจ้าอาวาสเขาให้อยู่
ตอนนี้พระอ๋อยไม่อยู่ที่นี่แล้ว?
เอ : ท่านคงไหวตัว เพราะนักข่าวขออนุญาตเจ้าอาวาสเข้าไปตรวจสอบ ทีนี้จังหวะที่คุยกับเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสก็ส่งรถออกไปเลยค่ะ จังหวะที่เห็นว่าท่านไม่ได้ครองจีวร แค่สบงอังสะ ก็นั่งรถออกไปเลยค่ะ
ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าลูกบ้านไม่เคยบอกเขาเลย?
เอ : เรารู้แต่ก็ไม่รู้จะบอกด้วยความผิดอะไร เราไม่ทราบว่าที่ท่านมา ท่านมาแบบถูกต้องหรือไม่ เราไม่ใช่สำนักพุทธ เราไม่มีเอกสาร เราไม่รู้ว่าท่านปราชิกหรือไม่ พอทราบข่าวว่าจะมีนักข่าวเข้ามา แล้วที่สุดก็ทราบว่าตอนนั้นท่านชิงสึกก่อน ท่านไม่ได้ผิดข้อหาปราชิก ถามว่าการบวช บวชได้มั้ย บวชได้ แต่ปัญหาคือความสมควร พระอุปัชฌาย์ ที่บวชให้ ท่านเห็นสมควรเหรอที่จะบวชให้คนที่ไม่ได้ทำให้สังคมกระจ่างว่าท่านมีความผิดจริงมั้ย
เจ้าอาวาสถูกปลดเรียบร้อย คุณทราบหรือยัง?
เอ : ทราบแล้วค่ะ เห็นจม.เมื่อวานนี้ตอนกลางคืน จริงๆ จะบอกว่าเราก็ไม่ได้มีผลอะไร เพราะการแต่งตั้งเจ้าอาวาสไม่ได้มาจากชาวบ้านอยู่แล้ว หลังจากเจ้าอาวาสองค์นี้ออกไป ก็เชื่อว่าเดี๋ยวจะมีเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ซึ่งเป็นคนที่รู้จักกันกับเจ้าอาวาสองค์เก่าอยู่แล้ว เพราะเจ้าอาวาสองค์นี้ที่ได้มาก็เพราะรู้จักเจ้าอาวาสองค์เก่า ฉะนั้นสำหรับชาวบ้านก็ไม่น่ามีผลอะไร
เคยถามเจ้าอาวาสมั้ย ทำไมให้พระอ๋อยมาอยู่ในพื้นที่?
เอ : ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ แต่ไม่มีใครกล้าถามซึ่งหน้า เพราะตัวท่านเองก็ไม่เคยบอกชาวบ้าน ท่านไม่เคยบอกเราอยู่แล้ว ว่าท่านเอาใครมาบวช ที่มาที่ไป พระในวัดส่วนใหญ่มีรูปเดียวที่เป็นคนในพื้นที่จริงๆ ที่เหลือเจ้าอาวาสเอามาเองหมด เราไม่เคยรู้เลยว่ามายังไง
พระอ๋อยเป็นเพื่อนเจ้าอาวาส?
เอ : วันที่นักข่าวเข้ามา มีนักข่าวไปสอบถามพระอ๋อย พระอ๋อยก็ชี้แจงว่าเป็นเพื่อนกัน รู้จักกันมานานแล้วตั้งแต่เด็ก แต่มีข้อนึงที่เราติดใจ พระอ๋อยพูดกับเจ้าอาวาสไม่ตรงกัน พระอ๋อยบอกนักข่าวว่าท่านใช้ใบสุทธิเดิม ใช้ยศตำแหน่งเก่า แต่ความเป็นจริงแล้วถ้าท่านบวชใหม่ท่านก็ต้องเริ่มใหม่ ท่านไม่สามารถใช้พรรษาเก่า ใช้ใบสุทธิเก่าได้ หลังมาฟังคำสัมภาษณ์เจ้าอาวาส เจ้าอาวาสบอกว่าบวชใหม่ถูกต้อง ออกใบสุทธิใหม่ ซึ่งมันเป็นความขัดแย้งกัน จริงๆ สังคมก็อยากทราบว่าตกลงท่านบวชใหม่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัยหรือเปล่า
พอเปิดประเด็นพระอ๋อย น้องสาวพระอ๋อยบอกว่าไม่เป็นธรรม?
เอ : ถ้าบอกว่าไม่เป็นธรรมกับพระอ๋อย แล้วเป็นธรรมกับชาวบ้านมั้ยคะ ขอถามแบบนี้ ถ้าคิดว่าท่านบริสุทธิ์ ถูกต้อง ต้องมีการพิสูจน์กัน เอาผู้หญิงคนนั้นมา แล้วเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ตั้งอธิกรขึ้นมาว่าพระองค์นี้มีปัญหา แล้วสอบสวนกับคณะสงฆ์ กับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเพื่อพิสูจน์ความจริง ถ้าพระอ๋อยไม่ผิดจริง ฟ้องเลยค่ะ
ป้าปุ๊ย : หลวงพี่เขาไม่ฟ้อง เขาบอกว่าใครทำไงได้งั้น แล้วเราจะไปฟ้องได้อะไร ฉันยุให้ฟ้อง พี่ฉันไม่ฟ้อง ฉันบอกเดี๋ยววันข้างหน้ากัดอีกนะ ฉันพูดด้วยโทสะ ว่าหลวงพี่ต้องฟ้อง เดี๋ยวพี่บวชมันก็แว้งอีก ถ้าจะตีงูต้องตีให้หลังหัก พี่บอกเออๆ พอแล้ว
แต่ยืนยันความบริสุทธิ์ใจพี่ชาย แล้วเหตุการณ์วันนั้นคืออะไร?
ป้าปุ๊ย : อีนี่กินข้าวหม้อเดียวกัน อีคนที่มานั่ง เดี๋ยวด่าเสีย ไม่อยากพูด
จารุต : ที่มาวันนี้ เพราะอยากให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด โดยการสอบสวน คือพระก็มีสิทธิ์ได้รับความเป็นธรรม อย่างในกุฏิท่านกับห้องน้ำอยู่แยกกัน เวลาไปเข้าห้องน้ำ ท่านก็ไม่ได้ล็อกกุฏิ
คิดว่าพระอ๋อยถูกใส่ร้ายเหรอ?
จารุต : ผมไม่ได้บอกว่าใส่ร้าย แต่เป็นข้อสงสัย ว่ามีการจัดฉาก วางยา แม้กระทั่งยกทรงที่เจอ ก็ยังมีฉลากติดอยู่ยังไม่ได้แกะ มีคนเก็บเอาไป ทำไมไม่เอามา นี่คือข้อสงสัย
ในเมื่อไม่เสร็จกระบวนการ ทำไมท่านไม่รอก่อน ไปบวชอีกทำไม?
จารุต : อันนี้ตอบไม่ได้ เป็นเรื่องของท่าน
คุณเออยากพูดอะไรอีกมั้ย?
เอ : อยากฝากว่าเราให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ถ้าท่านไม่ผิดจริง ก็ควรมีการตั้งการสอบสวนทางพระที่เป็นเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด ควรเริ่มต้นสอบสวนควบคู่ไปกับพระประแดง จริงๆ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับท่าน ถ้าท่านบอกว่ามีการจัดฉากจริงๆ ก็ควรล้างมลทินให้ท่าน แต่อยากบอกว่าคนเราการปฏิบัติธรรม รับใช้พระพุทธศาสนา ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่การบวชอย่างเดียว ท่านสามารถนุ่งขาว ห่มขาว ถือศีลแปด หรือปฏิบัติธรรมใดๆ ก็ได้ ถ้าเกิดตัวท่านมีข้อกังขา การที่ท่านกลับมาบวช มีแต่ทำให้ศาสนามัวหมองมากกว่า ท่านสามารถรับใช้พระศาสนาด้วยวิธีอื่นได้ค่ะ
ทนายอรรณพ บุญสว่าง กรณีแบบนี้ถือว่าไปบวชได้มั้ย?
ทนาย : จริงๆ เรื่องนี้ผิดมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่วัดบางหญ้าแพรกที่บุกกันเข้าไป คำถามแรกที่สังคมยังไม่ได้คำตอบ คือตอนบุกเข้าไปแล้ว พูดกันหลายครั้ง อธิกรยังไม่ได้ร้องเรียน กระบวนการนี้ไปไหน ขบวนการสอบสวนหายไปไหน แล้วชิงสึกไปก่อน พอไม่เกิดขึ้น เรื่องที่เสียหาย เสื่อมเสียในวงการสงฆ์ กี่เรื่องแล้ว คุณเคยเห็นคณะกรรมการสอบสวนสงฆ์มั้ย ผมว่าสังคมไม่เคยเห็น มีกฎนิคหกรรม มีพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ตั้งแต่มาตรา 24 มีกระบวนการนิคหกรรมให้ทำ แต่ทำหรือยัง
กรณีพระอ๋อย ท่านชิงสึกไปก่อน ไม่เข้ากระบวนการ จริงๆ ต้องเข้าระบบเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน?
อรรณพ : การอยู่กับสตรีในที่ลับ สองต่อสอง ลับหูและลับตา เป็นอาบัติ ที่เป็นไปได้ตั้งแต่ปราชิก สังฆาทิเสส เพราะอยู่กันแค่สองคน ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย ต้องชี้ให้ขาดว่าเป็นอาบัติไหน พอไม่เข้านิคหกรรม แล้วยังไงล่ะ
พอชิงสึกก็เหมือนบริสุทธิ์ บวชใหม่ได้ ป้ามองยังไง?
ป้าปุ๊ย : ฉันไม่รู้ตำแหน่งสงฆ์ พี่ฉันผิดไม่ผิดไม่รู้ แต่ฉันว่าพี่ฉันโดนวางยา
เมื่อกี้ที่เสื้อใน ไม่ใช่ป้ายราคา เป็นป้ายบอกไซส์?
รณิดา : เราไม่ทราบว่าเป็นภาพนี้หรือเปล่า
มันก็เป็นภาพนี้?
จารุต : ทำไมคนที่เจอเขาเก็บไป ทำไมไม่เอาออกมาพิสูจน์
รณิดา : ใช่ นี่เป็นหลักฐานสำคัญ ทำไมไม่เอาออกมาพิสูจน์คะ นี่เป็นข้อสงสัยหลักๆ เลยว่า ใครเก็บเสื้อในไป เสื้อในอยู่ไหน
ทนาย : วันนี้บวชกลับไปแล้ว ก็เข้านิคหกรรมได้สิครับ
ล่าสุดพระอ๋อยสึกแล้วเมื่อเช้านี้ ผู้ใหญ่บ้านแจ้งมาแล้ว เสื้อในทีมงานเช็กแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นใส่กลับไป?
ป้าปุ๊ย : ไม่ใช่ ฉันเข้าไปจับมัน ยกทรงมันอยู่ มันนุ่งกางเกงขาสั้น มันเอาผ้าถุงปัดไว้เฉยๆ ฉันยังตบหน้ามันเลย ตร.ดึงฉันออก ฉันตบเพราะหมั่นไส้ว่าทำไมทำได้แบบนี้ เข้ามาทำแบบนี้ทำไม ทำไมมึงไม่ออก ต้องโดนจ้างมา
ตบสั่งสอนเพราะถูกจ้างมา?
ป้าปุ๊ย : ตอนแรกเราไม่ได้คิดประเด็นนี้ เราโมโห ทำไมทำกันได้
ล่าสุดพระอ๋อยสึกแล้ว มีรถกระบะมารับ ขนข้าวของออกจากวัดไปแล้ว ทราบมาก่อนมั้ยว่าพี่ชายจะสึก?
ป้าปุ๊ย : ไม่ทราบเลย
พี่ชายเป็นคนดี?
ป้าปุ๊ย : ในสายตาฉันดี แต่สายตาคนอื่นไม่ดีไม่รู้
สายตาชาวบ้านวัดวังหญ้าแพรก พระอ๋อยดีมั้ย?
ป้าโต : ที่มาวันนี้ ไม่ได้คิดจะมาว่าใครเลย ไม่ได้จะมากลั่นแกล้งใคร เราเป็นนักบุญคนนึง เราเคยไปทำบุญกับอ.อ๋อย 9 วัด ที่มาวันนี้เพราะอยากทราบว่าความจริงเป็นยังไง ถ้าไม่ผิดจริงก็ออกมาเปิดเผยกับสังคม อยากให้อ.อ๋อยออกมาพูดว่าไม่ผิดนะ เป็นการเข้าใจผิด ชาวบ้านจะได้ชัดแจ้ง
ตกลงพระอ๋อยดีหรือไม่ดี?
ป้าโต : ก็ทำบุญกับเขามาเยอะ
ป้าปุ๊ย : ตอบไปเลย ไม่ต้องเกรงใจ เต็มที่
ป้าโต : ไม่ดีที่ไม่เปิดเผย
คิดว่าโดนวางงานมั้ย?
ป้าโต : คิดว่าจริง ไม่ใช่วางงาน ผู้หญิงทำไมไม่ออกมาเปิดเผยตัว เราไม่รู้จักผู้หญิงค่ะ
พี่คิดว่าพระอ๋อยเป็นยังไง?
ลุงอ๊อด : ท่านดี แต่ทำแบบนี้สมควรเหรอ ไม่ดีหรอก ถ้าไม่ดีชาวบ้านจะศรัทธาเหรอ ตอนนี้ชาวบ้านไม่ศรัทธาแล้ว
ป้าโต : หนูก็ไม่ศรัทธานะ ถ้าทำแบบนี้
กอบ : ไม่ศรัทธาเลย ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง
นอกจากเรื่องนี้ มีเรื่องอื่นอีกมั้ย?
กอบ : กินเหล้าครับ
ป้าปุ๊ย : มึงเห็นเหรอ ป้าขอถาม
กอบ : ตอนเขายังไม่ได้กิน เขาพูดอีกอย่าง แต่เวลากินไปแล้ว ผมโดนด่าประจำ
ป้าปุ๊ย : ขอเถียง เขาไม่เคยกินเหล้า
เหล้าที่เจอในกุฏิ แล้วแช่ตู้เย็นไว้?
กอบ : ป้าฟังผมนะ
ป้าปุ๊ย : ไม่ฟัง สปายเขาเอาไว้ไหว้ย่าที่เสา ย่าเขากินหมดแหละ เขาวางทีละ 2 ขวด
ย่าต้องกินเย็นๆ เหรอ?
ป้าปุ๊ย : เผื่อเขาลาแล้วให้ลูกศิษย์ ไม่มีหรอก เขาไม่เคยกินเหล้า ขอเถียง พี่ชายฉันไม่เคยกินเหล้า
กอบ : คนเราปกติไม่ดื่มเหล้าพูดจาอีกอย่าง แต่เวลาดื่มไปแล้วก็พูดอีกอย่าง
ป้าปุ๊ย : ขอเถียง
ลุงอ๊อด : จะใช้ความรู้สึกตัวเองไม่ได้
กอบ : ผมโดนกับตัว
ป้าปุ๊ย : ไม่โดนหรอก ปั๊ดโธ่
จารุต : คุณต้องเห็นว่าท่านดื่ม
กอบ : ผมโดนบ่นโดนว่า
จารุต : มันยังพิสูจน์ไม่ได้ ถ้าแค่บ่นว่า พิสูจน์ไม่ได้ว่าดื่มหรือเปล่า
ลุงอ๊อด : แต่เขาให้ไปซื้อเหล้า นั่งวินผมไป
ป้าปุ๊ย : ใคร
ลุงอ๊อด : ไอ้ใหญ่ นั่งวินผมไป
ป้าปุ๊ย : ไอ้ใหญ่ตายไปแล้ว ไม่มีตัวตนน ก็พูดได้ เอาความจริงมาคุยดีกว่า ไม่ชอบไงก็พูดมาเลย
ลุงอ๊อด : เรื่องจริงก็ผิดทั้งวัด
ป้าปุ๊ย : ถามจริงๆ วันนี้มีพระองค์นึงกินเหล้า ทำไมพวกพี่ไม่ไปจับเขา
ลุงอ๊อด : จะจับเขาเรื่องอะไร
ป้าปุ๊ย : พวกพี่เจ๋งจริง ทำไมไม่ไปจับ อย่ามาพูด อย่ามากล่าวหา
ชาวบ้านบอกว่าพระอ๋อยบอกว่าวันนั้นผู้หญิงเป็นแม่บ้าน เข้ามาทำความสะอาดบ้าน แล้วเหนื่อยเลยไปอาบน้ำ แล้วหมอปลาบุกมาพอดี เขาไปพูดกับโยมที่วัดขุมข้าว เคยได้ยินมั้ย?
ป้าปุ๊ย : ไม่เคยได้ยิน
ทนาย : ธรรมวินัย เป็นพระก็รู้อยู่ว่าอยู่ในที่ลับหู อยู่ในที่ลับตากับสตรีสองต่อสองมันทำไม่ได้ การมีแม่บ้านทำงานตรงนั้น ต้องมีชาวที่รู้ความ รู้สติสัมปชัญญะอยู่ด้วย อยู่สองคนไม่ได้ ท่านเป็นพระท่านต้องรู้ว่าควรทำยังไง
กรณีแบบนี้ท่านขอสึกไปเอง จริงๆ ทำได้เหรอ?
ทนาย : การลาสิกขา ลาได้กับผู้รู้สติสัมปชัญญะ ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาสทำได้ แต่มันเหมาะสมมั้ยล่ะ แล้วเกิดเหตุแบบนี้ ถ้าถามว่าตัวเป็นคนที่รักษาพระพุทธศาสนา และพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เข้านิคหกรรมปฏิเสธไปเลย ว่าวันนั้นไม่เกิดการเสพเมถุน ไม่มีอะไร พอชิงสึกไปก่อน ถามว่าตัวเองไม่ได้พิสูจน์ พอไปขอบวชใหม่เจตนาคืออะไร วันนี้สึกอีกแล้ว เป็นฆราวาส ไม่ได้อยู่ในบังคับอีกแล้ว เดี๋ยวไปโผล่ที่ไหนอีก อย่างนี้ศาสนาเสียหายกว่าตัวบุคคล เราต้องปกป้องศาสนามากกว่าบุคคลสิ อ้างเหมือนเดิมว่าไม่มีใครบอกฉันปราชิก ท่านขาดจากความเป็นพระตั้งแต่ท่านกระทำเดี๋ยวนั้น ไม่ต้องรอให้ใครมาปรับอาบัติ การที่เรียกร้องให้เข้ากระบวนการเพื่อไปตรวจสอบ ไปสอบพยานสิ
ป้าปุ๊ยพร้อมชนตลอด ครั้งนึงป้าจำได้มั้ย พระอ๋อยตอนท่านสึก ท่านบอกจะไม่กลับมาบวชอีกแล้ว?
ป้าปุ๊ย : ไม่บอก เขาไม่ได้พูดว่าจะไม่บวช แต่ก็ไม่รู้ ฉันไม่ได้ยิน
พูดกันนอกรอบ พี่จารุตบอกว่ามีเรื่องการชิงตำแหน่งกันด้วยที่วัดบางหญ้าแพรก?
จารุต : มีข่าวจากผู้ใหญ่ที่เชื่อถือได้ว่าตอนนี้มีพระอยู่ 4 รอบวิ่งเต้นเพื่อเอาตำแหน่งเจ้าอาวาส
รณิดา : จริงๆ พระอ๋อยสึกแล้วก็ควรเอามาสอบสวนตามกระบวนการได้ คณะทำงานมี
ทนาย : ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์และการปกครองคณะสงฆ์ มีผลโดยตรงกับพระสงฆ์ที่เป็นพระ แต่ผมก็ยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ยังพอไปได้ ถ้ามหาเถรสมาคม หรือพระผู้ใหญ่ที่ตั้งกันมา ที่ปกครองกันเต็มไปหมดเลย ถามว่าท่านมีหน้าที่ตามพระราชบัญบัติคณะสงฆ์ ที่จะดูแลปกครองพระในปกครอง วันนั้นเกิดอธิกรขึ้นทำไมไม่ทำละเว้นหรือเปล่า เพราะพระราชบัญบัติพระสงฆ์บอกว่าผู้ปกครองคณะสงฆ์เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ต้องทำเรื่องนี้ ถ้าเจ้าคณะสงฆ์ซุกฝุ่นไว้ใต้พรม มีมั้ยตั้งกรรมการทำอธิกรสอบสวน เมื่อวานก็มีครูบา อย่างนี้ต้องปรับอาบัติ ไม่งั้นสังคมก็มีทิ้งคาไว้อย่างนี้ แล้วก็มาเถียงกัน
ที่ไปเจอกันคาหนังคาเขา?
ทนาย : ตรงนี้ยังมีส่วนที่อาจเป็นความผิดคณะสงฆ์ได้ ตามมาตรา 44 เขาบอกว่าผู้ใดพ้นจากความเป็นพระภิกษุ ต้องอาบัติ ปราชิก ไม่ว่าจะเข้าสู่กระบวนการหรือไม่ แล้วมาโกหกบวชใหม่ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีนะครับ ตอนนี้ความผิดเกิดแล้ว ไปบวชมาแล้วรอบนึงที่นครนายก
จะทำยังไงป้า?
ป้าปุ๊ย : ไม่รู้ ฉันก็คิดไม่ออก เพราะทางสงฆ์ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเขา
ได้คุยกับพี่ชายมั้ย?
ป้าปุ๊ย : ไม่ได้คุยเลย รู้ว่าเขาบวช แต่ไม่รู้ไปบวชตรงไหน เขาไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย ไม่เคยหันกลับมาบ้านเลย ไปตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ลูกสาวโทรไปเขาก็บอกว่าเขาบวช แต่ไม่บอกว่าบวชที่ไหน ก็เพิ่งรู้ว่าอยู่ที่วัดขุมข้าว
ถ้าเขามาบวชอีกทำไง?
ลุงอ๊อด : จับเลย ผมเป็นลูกศิษย์มาก่อน
ป้าปุ๊ย : จับก็จับไปดิ เขาก็สึกแล้ว
ลุงอ๊อด : เดี๋ยวเขาก็ไปบวชอีก
ป้าปุ๊ย : รู้ได้ไง มึงพูดได้ไง เหล้าเขาไม่ได้ดื่ม ฉันขอเถียง
ลุงอ๊อด : เหล้าไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่
ทนาย : เป็นพระไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่ได้ด้วยเหรอ
ป้าปุ๊ย : เขาไหว้ครูไง
แล้วรีเจนซี ไหว้ใคร?
ป้าปุ๊ย : พี่ชายฉันไม่เคยกินเหล้า ฉันยืนยันได้คำเดียว เขาถวายเยอะไง เหมือนถวายน้ำแดง
กุมารทองดูดสปายหมดขวดเหรอ?
ป้าปุ๊ย : อันนี้ไม่รู้ จะพูดอะไรก็พูดได้
พูดข้อกฎหมายดีกว่า?
ทนาย : ถ้ามีเรื่องจัดฉาก มีเรื่องคนในวงการ อยากเป็นตำแหน่งโน้นนี้แทนกัน คณะสงฆ์เสื่อมเสียนะ คนมีส่วนเกี่ยวข้องไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับใคร ไปที่มหาเถรสมาคม หรือสำนักงานเลขานุการมหาเถรสมาคม สำนักพุทธเขาไม่มีหน้าที่จับพระสึกหรอก แต่เขามีหน้าที่นำวาระการประชุมเข้ามหาเถรสมาคม จะได้เกิดกระบวนการนิคหกรรม ให้ครบถ้วนกระบวนการ เพราะเรื่องนี้คณะสงฆ์เสื่อมเสีย มีการกลั่นแกล้งกันในวงการซื้อขายตำแหน่ง จัดฉากวางงาน มันไปกันยกใหญ่ วงการนี้ก็โหด ทางนี้ทำไมไม่ไปร้องล่ะ ตัวบุคคลจะได้ถูกเรียกไปสอบถาม
พระอ๋อยจะยอมเข้าหรือเปล่า ในวันนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวพระอ๋อยก็เลือกเดินออกไป ไม่ได้มาพิสูจน์ตัวเอง?
รณิดา : คลิปวันนั้นประเด็นว่าทำไมท่านสึก มีคลิปอยู่บนรถตู้ ทุกคนก็รุมท่านอยู่ ท่านบอกว่ารู้กฎ มีผู้หญิงในกุฏิก็ผิดแล้ว ท่านก็สึกดีกว่า แต่เราก็คิดว่าท่านไม่ควรบวชอีก จนกว่าตัวเองจะบริสุทธิ์ เราเห็นคล้ายกัน เราไม่ได้มาคนละเป้าหมายนะ สงสัยตัดสินท่านไปแล้ว ชาวบ้านก็ไม่อยากให้ท่านไปอยู่แล้ว
ถ้าวันนั้นพระอ๋อยยอมเข้าสู่กระบวนการ มันจบเลย วันนี้ไม่เกิดแล้ว ถ้าผิดวันนี้ท่านก็เป็นฆราวาส กลับมาบวชใหม่ไม่ได้อีก แต่ในเมื่อท่านเลือกสึก แล้วมาบวชใหม่ มันเป็นช่องว่าง?
รณิดา : อันนี้ไม่รู้ใจท่าน วันที่ท่านถูกรุมเร้า มันเกิดกระบวนการความคิดยังไง แต่ท่านพูดออกมาว่าแค่อยู่ด้วยกันกับผู้หญิงก็ไม่ถูกแล้ว
ถ้าวันนี้ท่านมีโอกาสกลับมาบวชอีกครั้ง แล้วไปอยู่วัดบางหญ้าแพรก โอเคมั้ย?
ลุงอ๊อด : ไม่โอเค บางหญ้าแพรกไม่ศรัทธาแล้ว วัดเสียหายเยอะแยะแล้ว ถามชาวบ้านสิ เอามั้ย
เก๋ : ไม่เอาเลย หมดศรัทธาแล้ว
หมดศรัทธาเพราะเหตุนี้เหตุเดียวเหรอ มีเหตุอื่นอีกมั้ย?
ลุงอ๊อด : เวลาผู้หญิงมาทำบุญ ชอบแนะแนมเขา ว่ามีผัวยัง ถ้าไม่มีผัวมา เดี๋ยวจะช่วยให้ อาตมาช่วยได้
ท่านอาจเสกยันต์?
ลุงอ๊อด : ทำตัวไม่เหมาะสม
ป้าโต : ท่านทำเหมาะสมหรือไม่ ท่านรู้ดีที่สุด คนอื่นไม่รู้หรอก
ลุงอ๊อด : ถามไปถามมา ผัวหายเลย ไม่ใช่คนเดียวนะ สามสี่คนนะ
รู้ได้ยังไง?
ลุงอ๊อด : ทำไมไม่รู้ ตีห้าออกจากกุฏิ ทำไมจะไม่รู้ ผมเห็นถึงกล้าพูด ไม่ใสความ
ทนาย : เจ้าคณะตำบล จังหวัด เขาอยู่กันได้ยังไงเฉยๆ
ลุงอ๊อด : เจ้าคณะตำบลเขาแต่งตั้งมา ก็โดนเตะก้านคอไปทีนึงแล้ว
ป้าโต : ถ้าท่านคิดว่าบริสุทธิ์ ก็ต้องออกมาชี้แจง คนที่ทำบุญไหว้พระจะได้รู้สึกดี ที่เราไหว้ ทำบุญไป มันพระแบบไหนกันแน่ที่สมควรไหว้ อยากออกสื่อ เพราะอยากให้พระอ๋อย หรือพี่อ๋อยก็แล้วแต่ที่สึก อยากให้มาชี้แจงว่าตัวเองเป็นยังไง ถ้าเขาไม่ผิด ก็บอกไปเลยไม่ได้เป็นอย่างนั้น ยินดีเข้ากระบวนการสอบสวนทางวินัย ชาวบ้านจะได้สบายใจว่าเราเข้าใจผิดใช่มั้ย หรือแก้ต่างไปจนขาวสะอาดแล้ว ก็จะได้อยู่ในสังคมได้
ทางนี้ว่าไง?
รณิดา : อยากให้พระอ๋อยชี้แจงค่ะ เห็นด้วยกับพี่เขานะ
จารุต : ถ้าไม่ชี้แจงคนก็จะไล่อยู่แบบนี้ตลอดไป
ทนาย : ถึงแม้เขาสึกแล้ว เขาก็ต้องปกป้องพระพุทธศาสนาหรือเปล่า ตอนนี้พระพุทธศานากำลังเสื่อมศรัทธา เขาไม่พูด ไม่ยอมรับสักคนก็ไม่จบ ก็จะเถียงกันอยู่อย่างนี้
ป้าได้ดูภาพข่าวมั้ย พี่ชายป้า เอายางมารัดหัว เขาบอกของผู้หญิง แต่ท่านบอกว่าแก้ปวดหัว ป้าจะชี้แจงแทนยังไง?
ป้าปุ๊ย : อาจคนมาเยอะๆ แล้วพระสติแตกก็ได้ ไม่รู้จะเอาอะไร ก็เอาอันนี้ผูก ความคิดเห็นของฉันแบบนี้ แต่จิตใจเขายังไงเราไม่รู้
รณิดา : เขามีการศึกษาวิจัยเหมือนยางรัด แต่ประเด็นนั้นเราเจอลูกสาวเขา ลูกสาวยอมรับว่าเป็นของลูกสาว ลูกสาวถูกเรียกไปโอนเงินให้ เขาบอกวันนั้นเหมือนไปเอาเงินจ่ายค่าไฟวัด
ทำไมวันนั้นท่านไม่บอกว่าของลูกสาว?
รณิดา : เข้าใจว่ามนุษย์ทุกคนไม่ได้มีสติต่อเนื่อง บวชปุ๊บไม่ได้นิพพานเลยนะคะ เพราะคนเป็นร้อยมา มันก็มีสิทธิ์พูดอะไรก็ได้ เพราะคิดไม่ออก ไม่ได้ว่าถูกนะ
ทนาย : คิดไม่ออกน่าอยู่เฉยๆ มากกว่าพูดแบบนี้ ไม่งั้นสังคมก็ไม่มีคำถามต่อหรอก
ป้าปุ๊ย : เราก็ไม่รู้จิตใจเขาไง แต่คนขวัญเสีย
ทนาย : อยากให้มาพูดคำเดียวว่าเสพเมถุนมั้ย
ป้าปุ๊ย : ถ้าเจอตัวเดี๋ยวจะบอก จะเรียกคุณหนุ่ม ให้นักข่าวคุณหนุ่มไป ให้เอาสื่อมาเลย ให้พี่ชายพูด ฉันคนจริง
ลุงอ๊อด : เอาผมไปด้วย
ป้าปุ๊ย : ไม่ต้องเอาไป เกะกะรถ เอาไปทำไม คนบ้านเดียวกัน แด-ข้าวเดียวกัน แต่มากัดกัน ไม่ต้องพูดมาก เดี๋ยวโมโห
ป้าโต : ถ้าเขาไม่ผิด สังคมจะได้รู้ไง
พระบวชอีกได้มั้ย?
ทนาย : ไม่ได้ ถ้าบวชอีกต้องดูคู่มือุปัชฌาย์ดีๆ ต้องงดเว้นการอุปสมบทให้แก่คนถูกห้ามอุปสมบทเด็ดขาด อยู่ในข้อ 5 อนุ 5
พระอ๋อย ถ้ากลับมาบวชอีก อาจถึงขั้นติดคุกได้?
ทนาย : ใช่ ตามพ.ร.บ.สงฆ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ที่ไปบวชก่อนหน้านี้การกระทำเกิดขึ้นแล้ว อยู่ที่ว่ามีคนไปร้องมั้ย
ถ้ามีคนร้องพระอ๋อยวันนี้ อาจมีสิทธิ์ติดคุก?
รณิดา : เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม