"อนุทิน"ขึ้นเวทีโลกโชว์ศักยภาพไทยแก้วิกฤตโควิด - 19 พร้อมรับมือระบาดอีก หนุนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวทุกชาติแบบไม่เลือกปฏิบัติ
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 66 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้นำคณะเข้าร่วมการประชุมในหัวข้อที่หลากหลายภายในการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum -WEF) ที่เมืองดาวอส-คลอสเตอร์ สมาพันธรัฐสวิส ในวันนี้ (18 ม.ค.) ทั้งนี้ นายอนุทินได้รับเชิญให้ร่วมเวทีแสดงมุมมองรัฐบาลไทยในการประชุมหัวข้อ “The Pulling Power of ASEAN” ซึ่งมีผู้ร่วมเวทีจากทั้งภาครัฐและเอกชน ภายในและนอกภูมิภาคอาเซียน โดยนายอนุทินได้ชี้ให้ที่ประชุมเห็นถึงความร่วมมือที่แนบแน่นของอาเซียนในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนเป็นภูมิภาคที่ฟื้นตัวจากโรคนี้ได้อย่างรวดเร็ว และได้มีการจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านสาธารณสุขฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่ (ACHPEED) ในประเทศไทย ด้วยตระหนักว่าถ้าในภูมิภาครับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพได้ดี เศรษฐกิจก็จะมีเสถียรภาพมากขึ้น เพราะไทยและอีกหลายประเทศในอาเซียนคือฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญของโลก
น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า นายอนุทินยังระบุถึงโครงการสำคัญที่อยู่ในแผนของไทย อาทิ โครงการแลนด์บริดจ์เชื่อมการขนส่งระหว่างทะเลอันดามันและอ่าวไทย ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงการขนส่งสินค้าทางทะเลไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วโลก และพื้นที่ตามแนวแลนด์บริดจ์จะกลายเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่มีโอกาสมากมายสำหรับนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ นายอนุทินยังตอบคำถามจากที่ประชุมเกี่ยวกับความกังวลที่สถานการณ์โรคโควิด-19 อาจกลับมากระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยรองนายกฯ ระบุว่าประเทศไทยเรียนรู้การรับมือกับโรคนี้ ทั้งลักษณะการระบาด รูปแบบการควบคุมและสร้างภูมิคุ้มกัน การวางแนวทางจัดการ หากโรคโควิด-19 กลับมา เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ และระบบสาธารณสุขไม่ตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งการให้วิทยาศาสตร์เป็นตัวนำมาตรการทางสาธารณสุขและแผนงานที่ชัดเจน ทำให้ไทยสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกชาติได้โดยไม่เลือกปฏิบัติ เห็นได้จากการรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. แม้การดำเนินนโยบายนี้อาจสร้างความกังวลจากภาคส่วนต่างๆ แต่ก็ต้องกล้าที่จะตัดสินใจเพื่อประโยชน์ในภาพรวมของประเทศ ขอยืนยันว่าประเทศไทยดูแลด้านสุขภาพของประชาชนและเศรษฐกิจได้อย่างสมดุล ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดต่อโมเมนตัมทางเศรษฐกิจไทยให้ดำเนินต่อไปได้ แม้จะยังมีภัยคุกคามด้านสุขภาพต่างๆ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจร่วมประชุมเวที WEF ในวันนี้แล้ว นายอนุทินและคณะได้เดินทางไปยังกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ ระหว่างโครงการจีโนมิกส์ประเทศไทย (Genomics Thailand) และ Genomics England ต่อไป