นิวยอร์ก, 18 ม.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (17 ม.ค.) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นอ้างอิงข้อมูลจากเอกสารศาลและกลุ่มนักศึกษา รายงานว่าผู้ต้องสงสัยในเหตุโจมตีอันไม่ได้เกิดจากการยั่วยุบนรถโดยสารประจำทางเมื่อสัปดาห์ก่อนมีแรงจูงใจจากเชื้อชาติ โดยเหยื่อเคราะห์ร้ายเป็นนักศึกษาเชื้อสายเอเชียของมหาวิทยาลัยอินเดียนา ซึ่งถูกกระหน่ำแทงซ้ำหลายครั้ง
บันทึกของศาลระบุว่าบิลลี เดวิส หญิงผิวขาววัย 56 ปี ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า ทำร้ายร่างกายจนทำให้บาดเจ็บสาหัส และทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธร้ายแรงจากเหตุโจมตีในเมืองบลูมิงตันของรัฐอินเดียนา เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ซึ่งถือเป็นตัวอย่างล่าสุดของการเลือกปฏิบัติกับชาวเอเชียที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ
ขณะคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรที่มีเหตุอันควรเชื่อระบุว่าเดวิสและเหยื่อเคราะห์ร้ายนั่งแยกกันบนรถโดยสารประจำทาง โดยเดวิสได้ลุกขึ้นจากที่นั่งใกล้เคียงตอนเหยื่อพยายามลงจากรถ และใช้มีดพับแทงเหยื่อที่ศีรษะจนเกิดแผลทะลุหลายจุด
คณะเจ้าหน้าที่ของเมืองบลูมิงตันและมหาวิทยาลัยอินเดียนาออกมาประณามเหตุโจมตีดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นขณะมีรายงานเหตุคุกคามและเหตุโจมตีชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ทั้งนี้ ผลการศึกษาจากศูนย์ศึกษาความเกลียดชังและแนวคิดสุดโต่ง สังกัดมหาวิทยาลัยรัฐแคลิฟอร์เนียในเมืองซานเบอร์นาร์ดิโน ระบุว่าเหตุอาชญากรรมจากความเกลียดชังชาวเอเชียที่มีการรายงานในเมืองและเทศมณฑลขนาดใหญ่ที่สุด 16 แห่งของสหรัฐฯ ในไตรมาสแรกของปี 2021 เพิ่มขึ้นร้อยละ 164 จากปีก่อนหน้า
(ภาพจากเว็บไซต์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น : รายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุโจมตีอันไม่ได้เกิดจากการยั่วยุเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2023 ซึ่งมีแรงจูงใจจากเชื้อชาติในเมืองบลูมิงตัน รัฐอินเดียนาของสหรัฐฯ)