ครม.ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 4 เดือน

2023-01-17 18:15:32

ครม.ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 4 เดือน

Advertisement

นายกฯ เผย ครม.ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 4 เดือน ลดผลกระทบ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 66 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการขยายระยะเวลาการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล หลังมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 ม.ค. 66 นี้ ว่าเป็นการต่ออายุมาตรการออกไปอีกเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งแม้จะต้องใช้งบประมาณต่อเดือนค่อนข้างสูง โดยอาจสูญเสียรายได้การจัดเก็บงบประมาณประมาณ 4 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน แต่เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องตัดสินใจดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อแบ่งเบาภาระ ลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน นายกรัฐมนตรียืนยันว่าการแก้ไขปัญหาหรือออกมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ รัฐบาลต้องมีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน โดยทุกภาคส่วนต้องศึกษาสถานการณ์ภายนอกประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เช่น ราคาน้ำมันในตลาดโลก การนำเข้า หรือแหล่งผลิตต่าง ๆ ตลอดจนสถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศด้วย

ด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเป็นการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่นๆ ที่คล้ายกันในบัญชีพิกัดภาษีสรรพสามิต ประเภทที่ 01.05 รายการน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถันและรายการน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ โดยปรับอัตราภาษีลดลง ประมาณ 5 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมันดีเซล ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.66 ถึง 20 พ.ค.66 โดยเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ม.ค.66 นี้

ร่างกฎกระทรวงที่เสนอในครั้งนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อรายได้ของรัฐ โดยกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมาตรการภาษีครั้งนี้ จะดำเนินการเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือนจึงคาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเนื่องจากน้ำมันดีเซลเป็นต้นทุนในภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันในครั้งนี้จะช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจในระดับที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการปรับลดอัตราภาษี เพื่อให้ฐานะการคลังของประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐเป็นไปตามประมาณการการจัดเก็บรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลดูแลมาตรการนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลพี่น้องประชาชน ในสถานการณ์ที่ราคาพลังงานของโลกยังคงผันผวนและสูงอยู่